โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

25 พฤษภาคม 2565

“นิ่ว” กว่า 10 เม็ดแฝงอยู่ในถุงน้ำดีแต่ไม่ออกอาการรุนแรง รพ.ลานนากำจัดด้วยเทคโนฯ ส่องกล้องผ่านรูเล็ก-หายไว...


ตรวจสุขภาพประจำปี มีผลดีกว่าที่คิด

คุณสุภาพสตรีชาวเชียงใหม่ท่านหนึ่งมีนามว่า “คุณธัญวรัตน์ คำวินิจ” ไม่เคยคิดว่าจะมาป่วยด้วย “โรคนิ่วในถุงน้ำดี” เพราะไม่มีอาการแสดงให้เห็นมากนัก จนได้เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดให้ ก็พบว่ามีร่องรอยความผิดปกติบางอย่างบริเวณช่องท้องและได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยให้ละเอียด จึงได้ตัดสินใจไปเข้ารับการตรวจที่ “โรงพยาบาลลานนา” ในจังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง และได้รับการตรวจโดย “ศัลยแพทย์” ประจำโรงพยาบาลผู้มีนามว่า “นพ.ชนะพงศ์  จิรพรเจริญ” ซึ่งหลังจากคุณหมอได้ซักประวัติอาการแล้วได้ส่งตัวเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมด้วยการทำอัลตราซาวด์ช่องท้อง จึงทราบชัดเจนว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีซึ่งแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่แต่ก็มีจำนวนมากกว่า 10 เม็ดขึ้นไป ซึ่งคุณหมอบอกว่าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ก็อาจออกอาการรุนแรงมากขึ้นอีก จึงถือเป็นโชคดีที่ตรวจพบก่อนและคุณหมอได้แนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดกำจัดนิ่วเจ้าปัญหานี้ออกเพื่อป้องกันอันตรายล่วงหน้า โดย “คุณหมอชนะพงศ์” ได้อธิบายถึง “โรคนิ่วในถุงน้ำดี” ดังนี้


“...โรคนี้เป็นได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยที่กลุ่มเสี่ยงในการเกิดโรคจากปัจจัยสำคัญมาเกี่ยวข้องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทานอาหาร ภาวะอ้วน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน หรือป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย-โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตกก็ล้วนทำให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้เช่นกัน โดยในผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีอาการใดเลยในระยะเริ่มต้น แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ ก้อนนิ่วที่มีอยู่ อาจจะมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นก็ได้ รวมถึงมีจำนวนมากขึ้นได้ ซึ่งสามารถทำให้ไปอุดตันบริเวณรอยต่อระหว่างถุงน้ำดีกับท่อน้ำดีได้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบ และปวดท้อง หากลุกลามไปมากกว่านี้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด และอาจเป็นเหตุทำให้อันตรายถึงชีวิตได้ครับ...”

หากตรวจพบสามารถจบด้วยการรักษา

ารตรวจวินิจฉัยโรคนิ่วในถุงน้ำดีนั้นแพทย์สามารถทำ “อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง” เพื่อให้ทราบและยืนยันได้ว่ามีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีจนทำให้เกิดอาการ ส่วนในแง่ของการรักษานั้น “คุณหมอชนะพงศ์” ให้ข้อมูลว่า




“...หนทางสุดท้ายก็จะหนีไม่พ้นการกำจัดออกด้วยการผ่าตัดเพื่อยุติปัญหานิ่วในถุงน้ำดีให้จบสิ้น เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งถุงน้ำดีจากการอักเสบเรื้อรังได้อีก...ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับการตรวจและรู้ก่อนเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีโดยไม่มีอะไรน่ากลัวดังเช่นกรณีของผู้ป่วยรายนี้ครับ... ”

ทางฝ่าย “คุณธัญวรัตน์” เมื่อได้ทราบผลการตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีแล้วและคุณหมอได้แนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดก็ได้เล่าย้อนถึงตอนนั้นว่า

“...หลังจากทราบว่าต้องผ่าตัด ก็เริ่มศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่ามีความตื่นเต้นบ้างเพราะถือเป็นการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต แต่ตอนแรกที่รู้สึกกลัวก็ค่อย ๆ สบายใจขึ้น เพราะรู้จากคุณหมอว่าจะเป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้องเปิดแผลเล็ก ๆ และได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดจนช่วยให้ดิฉันเข้าใจมากขึ้นก็เลยไม่รู้สึกกลัว เพราะฟังจากคุณหมอพูดแล้วเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีอะไรที่น่ากลัว ไม่เจ็บมาก แผลผ่าตัดก็จะมีขนาดเล็กนิดเดียว จึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดและไปผ่าหลังจากนั้นอีก 2 วันค่ะ...”.

เทคโนฯ ผ่าตัดผ่านกล้อง...แผลเล็ก-เจ็บน้อย-ฟื้นตัวไว


ดังที่ “คุณหมอชนะพงศ์” ได้อธิบายไว้ในช่วงต้น ๆ ว่าการรักษานิ่วในถุงน้ำดีให้หายขาดจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีและก้อนนิ่วออกพร้อมกัน ซึ่งผลจากความก้าวหน้าของวงการแพทย์ในปัจจุบันได้ช่วยให้มีวิธีการรักษาด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้องผ่านหน้าท้อง โดยใช้เครื่องมือขนาดจิ๋วในการทำผ่าตัด มีกล้องวีดิโอกำลังขยายสูงที่มีความคมชัดส่งภาพภายในช่องท้องมาปรากฏบนจอรับภาพช่วยให้แพทย์มองเห็นได้อย่างชัดเจน สามารถทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยมากขึ้น โดยที่ศัลยแพทย์ไม่ต้องกรีดเปิดแผลใหญ่ที่หน้าท้องของผู้ป่วยเพียงแค่เจาะรูขนาด 0.5-1 เซนติเมตรไม่เกิน 4 จุดเพื่อสอดอุปกรณ์และกล้องเข้าไปตัดถุงน้ำดีออกมา ซึ่งเมื่อบาดแผลผ่าตัดมีขนาดเล็กจะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บน้อย จึงเท่ากับเป็นการลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนเมื่อเทียบกับการผ่าตัดใหญ่ทางหน้าท้องที่ใช้อยู่ทั่วไป ผลคือผู้เข้ารับการผ่าตัดฟื้นตัวไว ลดเวลาการนอนในโรงพยาบาลหลังผ่าตัดได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากได้รับการผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้องแล้ว “คุณธัญวรัตน์” ได้เผยกับทีมงาน “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” ดังนี้



“...ดิฉันนอนพักดูอาการที่โรงพยาบาลลานนา เพียง 2 คืนเท่านั้น โดยแรกๆ อาจมีอาการตึงๆ จากแผลผ่าตัดไปบ้าง แต่หลังจากออกโรงพยาบาลอาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเพียงไม่ถึง 1 อาทิตย์ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวัน และกลับไปทำงานได้ตามปกติหลังจากนั้นค่ะ...สุดท้ายนี้อยากฝากบอกคนที่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติในตัวเองก็ขอให้รีบไปพบและปรึกษาคุณหมอไว้ก่อนดีกว่า และการตรวจเช็คสุขภาพสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากตรวจเจออะไรขึ้นมาก็จะได้รีบรักษาโดยไม่ต้องกลัวอะไรเหมือนอย่างโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่ดิฉันเจอมาแล้ว ซึ่งถ้าปล่อยไว้ก็จะน่ากลัวกว่า เพราะเท่าที่ทราบคืออาการอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยค่ะ...ต้องขอขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกท่านที่ช่วยดูแลดิฉันอย่างดีระหว่างที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลานนาค่ะ...”

“หมอจอแก้ว” พูดไว้แต่แรกแล้วว่า...การที่ “คุณธัญวรัตน์” ได้รับการตรวจสุขภาพเมื่อต้นปีนี้ถือเป็น “โชคดี” มหาศาลเพราะช่วยให้เห็นร่องรอยความผิดปกติบางอย่างที่ช่องท้องจึงได้ไปที่ “รพ.ลานนา” และได้รับการตรวจกับ “ศัลยแพทย์” โดยตรงและพบว่า “นิ่วกว่า 10 เม็ด” มาอยู่ในถุงน้ำดี ซึ่งน่าจะประมาณได้ว่ามันอยู่ในนั้นมานานหลายปีแล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นอะไรมากมายจึงไม่ได้ให้ความสนใจแถมยังปล่อยไว้ จึงเห็นความผิดปกติบางอย่างที่ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นอะไรกันแน่หากไม่ไปตรวจ แต่เมื่อทราบผลการตรวจแล้วก็ไม่รอช้าที่จะขอนัดไปให้คุณหมอจัดการเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่มันจะออกฤทธิ์อาละวาดโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งทุกวันนี้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติดังเดิมแล้ว...ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ

 

                                                                                                หมอจอแก้ว