โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

27 ธันวาคม 2565

หนูน้อยคริสต์มาส Merry Christmas


 โฮ่ โฮ่ โฮ่ Merry Christmas & HappyNewYear

             ในเทศกาลคริสต์มาสนี้ โรงพยาบาลลานนาขอมอบความสุข และรอยยิ้มให้ทุกท่าน ด้วยภาพน่ารักๆของ หนูน้อยคริสต์มาส จากแผนกห้องคลอด-ทารกแรกเกิด หนูน้อยลานนา โรงพยาบาลลานนา

         โรงพยาบาลลานนา ยินดีต้อนรับคุณแม่ตั้งครรภ์ และพร้อมให้บริการด้วยทีมสูตินรีแพทย์ และพยาบาลที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมอุปกรณ์ และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย สำหรับดูแลเด็กแรกเกิด บริการห้องพักฟื้นสำหรับคุณแม่ และลูกน้อยที่สะดวกสบาย มาเป็นครอบครัวลานนากันนะคะ แพ็กเกจฝากครรภ์ แพ็กเกจเหมาคลอด ราคาพิเศษสำหรับผู้ประกันตน

ติดต่อสอบถาม ได้ที่ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลลานนา โทร052134777

20 ธันวาคม 2565

เมืองไทยประกันชีวิต เยี่ยมสถานพยาบาลคู่สัญญา โรงพยาบาลลานนา 3


 เมืองไทยประกันชีวิต เยี่ยมสถานพยาบาลคู่สัญญา โรงพยาบาลลานนา 3


        นพ.ธีระยุทธ นิยมกูล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา 3 พร้อมด้วยหัวหน้าแผนกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง  ให้การต้อนรับ คุณอรพรรณ เชี่ยวสุวรรณโชติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสถานพยาบาลคู่สัญญา และคุณศิจิตต์ เก่งกาจ  ผู้ชำนาญงานอาวุโสฝ่ายบริหารสถานพยาบาลคู่สัญญา  พร้อมด้วยทีมงานจาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  ในโอกาสที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนโรงพยาบาลคู่สัญญาประจำปี 2565 พร้อมทั้งทบทวนรายละเอียดและความถูกต้องของเอกสารเวชระเบียน และการคิดค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานการเปิดคู่สัญญา และหารือ ทำความเข้าใจในการเป็นคู่สัญญา พร้อมทั้งรับทราบถึงปัญหาและหาข้อแก้ไขร่วมกัน ในการดูแลลูกค้าร่วมกันระหว่างบริษัทและสถานพยาบาล เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการโรงพยาบาลลานนา ได้รับความสะดวก สบายในการเข้ามาใช้บริการต่อไป


โรงพยาบาลลานนา 3 รับการตรวจประเมินการให้บริการทางการแพทย์ โครงการประกันสังคม ประจำปี 2565 .


 โรงพยาบาลลานนา 3 รับการตรวจประเมินการให้บริการทางการแพทย์ โครงการประกันสังคม ประจำปี 2565

            วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงพยาบาลลานนา 3 ... นพ.ธีระยุทธ นิยมกูล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา 3 และนพ.ดุสิต ศรีสกุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา พร้อมทั้งหัวหน้าแผนกทุกฝ่าย ให้การต้อนรับคณะผู้ตรวจประเมิน จากสำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ กลุ่มงานมาตรฐานทางการแพทย์ นำโดย นพ.สิทธิชัย พุทธิประเสริฐ ที่ปรึกษาทางการแพทย์ และ พลตำรวจตรีหญิง รมย์ชลี พูนประสิทธิ์ ที่ปรึกษาทางการพยาบาล พร้อมทั้ง ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยคุณจริยา กาวิลเครือ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ และทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคม จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยม เพื่อตรวจประเมินมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ การพยาบาล เอกสารข้อมูลสถานพยาบาล ระบบเวชระเบียนผู้ป่วย และมาตรฐานด้านความปลอดภัย รวมทั้งด้านการให้บริการทุกระบบ ของโรงพยาบาลลานนา 3 ประจำปี 2565


        โรงพยาบาลลานนา 3 รับการประเมินในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการตรวจเพื่อรับรองมาตรฐานสถานพยาบาล ควบคุมการบริการของสถานพยาบาลในระบบประกันสังคม ให้มีความพร้อมในการให้บริการผู้ป่วย และต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานประกันสังคม และร่วมปรึกษาหารือปัญหาที่เกิดขึ้นจากการให้บริการประกันสังคมในปีที่ผ่านมา



        สำหรับข่าวจากสำนักงานประกันสังคม ฝากไว้สำหรับผู้ประกันตนที่ต้องการย้าย หรือเปลี่ยนสิทธิ์ โรงพยาบาลในโครงการประกันสังคม ปลายปีนี้เป็นช่วงที่สามารถยื่นขอเปลี่ยนสถานพยาบาลหลักได้ และ โรงพยาบาลลานนา และโรงพยาบาลลานนา 3 ได้รับการขยายศักยภาพเพิ่ม มีความพร้อม สามารถรับผู้ประกันตนเพิ่มได้อีกจำนวนมาก

        ท่านสามารถกดเลือก โรงพยาบาลลานนา และ โรงพยาบาลลานนา 3 เป็นสถานพยาบาลหลักของท่านได้แล้ว ทั้ง 2 แห่ง สามารถใช้สิทธิ์ได้เหมือนเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวกัน โดยการเปลี่ยนสิทธิ์ได้ด้วยตัวเองทางออนไลน์ www.sso.go.th หรือ แอฟพลิเคชั่น SSO CONNECT ระยะเวลาการเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำของทุกปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 - 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น

12 ธันวาคม 2565

แสดงความยินดี เปิดร้าน REEN สาขาโรงพยาบาลลานนา


 แสดงความยินดี เปิดร้าน REEN สาขาโรงพยาบาลลานนา


        นพ.สุเมธ ฮั่นตระกูล กรรมการบริหาร โรงพยาบาลลานนา , นพ.ดุสิต ศรีสกุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา และ นพ.ธีระยุทธ นิยมกูล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา 3 ร่วมแสดงความยินดีให้แก่คุณกิจพร กวีกิจสุนทร เจ้าของร้าน เนื่องในโอกาสเปิดร้านกาแฟ REEN สาขาโรงพยาบาลลานนา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ หน้าโรงพยาบาลลานนา เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา



โปรโมชั่น !!! ร้าน REEN Buy 1 Get 1 Free โปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ฟรี
ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2565 นี้ ใช้สิทธิ์กันได้ตลอดทั้งวัน ที่ร้าน REEN สาขาโรงพยาบาลลานนา

8 ธันวาคม 2565

โรงพยาบาลลานนา จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยหมู่


 โรงพยาบาลลานนา จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนรองรับอุบัติภัยหมู่
เพื่อให้มีการเตรียมความพร้อม และเพิ่มความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับผู้รับบริการของโรงพยาบาลลานนา


        เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา จัดการซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ประจำปี 2565 โดยมีคุณศรีทัย สีทิพย์ หัวหน้างานบริการกลาง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ในแก่เจ้าหน้าที่ พยาบาลของโรงพยาบาลลานนา สำหรับเหตุการณ์จำลองในการซ้อมแผนครั้งนี้ ได้รับแจ้งจากศูนย์เวียงพิงค์ ว่ามีอุบัติเหตุเกิดที่ทางลอดข่วงสิงห์ มีผู้บาดเจ็บประมาณ 10 ราย จึงให้ทีมรถพยาบาลฉุกเฉินออกไปช่วยเหลือ และประเมินสถานการณ์ ก่อนจะนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลลานนา เพื่อช่วยเหลือและรักษาอย่างทันท่วงที


        เมื่อมีการนำผู้บาดเจ็บมาส่งยังห้องฉุกเฉินโดยรถ Ambulance ทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเข้ามาดำเนินการเตรียมความพร้อม เพื่อประเมินผู้บาดเจ็บตามระดับความรุนแรง และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน และหลังจากจบการซ้อมแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน “ อุบัติภัยหมู่ ” ได้มีการประชุมเพื่อสรุปผล เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม เพื่อให้แผนปฏิบัติการฉุกเฉิน “ อุบัติภัยหมู่ ” มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเตรียมพร้อม และฝึกซ้อมไว้ หากเกิดสถานการณ์จริง จะได้มีการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ณ โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่

7 ธันวาคม 2565

ทนปวดไม่ไหวจากปัญหาทั้ง “ข้อเข่า-ข้อเท้า” เสื่อม!! “รพ.ลานนา” แก้โดยเปลี่ยนใส่ข้อเทียม-เชื่อมข้อเท้า

 



ที่มา-สาเหตุของอาการปวดนาน 5 ปี

ลังจากทำหน้าที่รับใช้ “เจ้านาย” ผู้เป็นเจ้าของ “ข้อเข่า-ข้อเท้า” มาเป็นเวลากว่า 50 ปีก็เริ่มทำท่าออกอาการรวนเรส่งผลให้ขาแข้งเริ่มปัดเป๋และตามมาด้วย “ความเจ็บปวด” ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา 5 ปีจนในที่สุด “คุณสมศักดิ์ ปาลีตา” มีอายุได้ 59 ปีก็มีความเข้าใจชัดเจนว่าได้ประสบปัญหาภาวะข้อเข่าและข้อเท้าเสื่อมเข้าให้แล้ว โดยเจ้าตัวได้ลำดับความเกี่ยวกับภาวะอาการที่สร้างความทุกข์ในช่วงนั้นว่า

“...เริ่มรู้สึกว่าปวดเข่าและข้อเท้ามา 5 ปีทำแล้วและมีอาการมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากต้องขับรถตู้เป็นเวลานานหลายชั่วโมงในแต่ละวัน และพอลงจากรถจะรู้สึกถึงอาการปวดเข่า เวลาเดินจะได้ยินเสียงก๊อกแก๊กโดยมีอาการปวดร้าวบริเวณเข่าและข้อเท้าร่วมด้วย รวมถึงมีอาการบวม เข่านูน ขาโก่งเสียรูปอีกต่างหาก นอกจากจะทำให้เสียความมั่นใจในบุคลิกภาพแล้วยังปวดทรมานมากเวลาเดิน ใช้ชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบากจริง ๆ ครับ...

เมื่อ “คุณสมศักดิ์” เริ่มรู้ตัวว่าชักจะปวดเข่า-ปวดข้อเท้าหนักขึ้นจึงไปรักษาที่ โรงพยาบาลตามสิทธิ์ รวมทั้งแวะเวียนไปตาม คลินิกต่าง ๆ ก็ได้รับการบำบัดรักษาด้วยการทานยาแก้ปวดบ้าง ทำกายภาพบำบัดบ้าง   และได้รับการฉีดยาบ้าง แต่อาการปวดก็ทุเลาลงได้แค่ไม่นานเพราะหลังจากหมดฤทธิ์ยาความปวดก็คืนกลับมาเหมือนเดิมอันเป็นผลจาก “โรคข้อเสื่อม” ตามที่ได้ทราบจากคุณหมอผู้ตรวจ...แต่เวลาที่ไปโรงพยาบาลตามสิทธิ์เพื่อเข้ารับการรักษาทีไรก็ต้องรอคิวนานเพราะมีผู้ป่วยจำนวนมากไปรอรักษาเช่นกันจึงตัดสินใจไปที่

“ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา” จะได้ไม่ต้องรอนานกว่าจะได้รับการตรวจรักษาอาการจาก “โรคข้อเสื่อม” ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุกับผู้คนหลายวัยที่ใช่ว่าจะมาเล่นงานเฉพาะผู้สูงวัยเท่านั้น โดยเฉพาะใครที่ใช้ข้อเข่า-ข้อเท้าหนักเกินกำลังทั้งจากการทำงาน หรือการออกกำลังกาย หรือจากการบาดเจ็บ และพอนานวันเข้าจะส่งผลให้ “ข้อ” เหล่านี้เกิดอาการปวด อักเสบกลายเป็นโรคข้อเข่า ข้อเท้าเสื่อม ยิ่งถ้าปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เสียการทรงตัว และล้มง่าย รวมทั้งสร้างความเจ็บปวดทรมานในการใช้ชีวิตประจำวันได้ในที่สุด ดังกรณีของผู้ป่วยรายนี้ที่ต้องเจอภาวะ “ข้อเข่าและข้อเท้าเสื่อมระยะสุดท้าย” ตนต้องไปเข้ารับการรักษาที่ “ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา” ในที่สุด

ปวดข้อเข่า-ข้อเท้า ใช้เทคโนฯ ก้าวหน้ารักษาได้

ล้งจาก นพ.ปรัชวาล เอี่ยมพร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ เชี่ยวชาญพิเศษด้านข้อเท้าโรงพยาบาลลานนา” ได้ตรวจวินิจฉัยให้แล้วได้อธิบายให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยว่า

...จากผลการตรวจเอกซเรย์ทั่วไปรวมทั้งการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือ MRI แล้ว ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีภาวะข้อเข่าเสื่อมทั้งซ้ายขวา และมีข้อเท้าเสื่อมทั้งสองข้างจนทำให้ขาโก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นสาเหตุของอาการเจ็บปวดเวลาเดินหรือลงน้ำหนักจนมาถึงขั้นที่กระดูกข้อเข่า และข้อเท้าเสื่อมระยะสุดท้ายแล้ว และจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยหมอเห็นว่าควรจะรักษาอาการของข้อเข่าเสื่อมเป็นอันดับแรกด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทีละข้างก่อนเพื่อจัดแนวกระดูกขาให้ตรง จะได้ไม่ส่งผลต่อการใช้งานของข้อเท้า หลังจากหายดีและขาไม่โก่งงอแล้วจึงค่อยมาวางแผนการรักษาข้อเท้าที่เสื่อมต่อไป ทั้งนี้โดยจะรักษาภาวะข้อเท้าเสื่อมด้วยเทคโนโลยีการส่องกล้องครับ...”

“คุณหมอปรัชวาล” ได้อธิบายด้วยว่าระยะแรกของการรักษาโรคกระดูกข้อเท้าเสื่อมโดยทั่วไปนั้นแพทย์จะเริ่มด้วยการให้ทำกายภาพบำบัด ใส่อุปกรณ์พยุงข้อเท้า หรือมิฉะนั้นก็ตัดรองเท้าให้รองรับกับสรีระเท้าอย่างลงตัวรวมถึงให้ออกกำลังกายภายใต้การแนะนำของแพทย์ก่อน เพื่อยืดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น และใช้ยาแก้ปวดและยาบำรุงผิวข้อซึ่งจะช่วยทุเลาอาการเจ็บปวดไปก่อน แต่ถ้ารักษาด้วยวิธีเหล่านี้สักระยะหนึ่งแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรืออาจจะรุนแรงกว่าเดิมจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจะแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัด ซึ่งในกรณีของ “คุณสมศักดิ์” นั้นคุณหมอได้พิจารณาเห็นควรใช้การรักษาแบบ “เชื่อมข้อเท้า...ด้วยเทคนิคการส่องกล้อง Arthroscopic assisted ankle arthodesisโดยให้รายละเอียดในส่วนนี้ว่า

“...โดยปกติแล้วการผ่าตัดเชื่อมข้อเท้าจะมี 2 วิธีคือผ่าตัดแผลเปิดกับการส่องกล้อง ซึ่งมิใช่ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะสามารถทำการผ่าตัดโดยการส่องกล้องได้ทุกราย หากแต่ต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไป อย่างเช่นข้อเท้ามีสภาพการเอียงค่อนข้างมากก็ไม่สามารถทำให้คืนกลับมาสู่ลักษณะปกติได้ซึ่งกรณีแบบนั้นก็ต้องใช้การผ่าตัดแบบแผลเปิด แต่ข้อเท้าของผู้ป่วยรายนี้เอียงจากเดิมไม่มากนักจึงสามารถใช้เทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้องได้ และปรากฏว่าผลการรักษาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี-น่าพอใจ หลังจากได้รับการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมและลักษณะขากลับมาอยู่ในแนวตรงเหมือนเดิมโดยที่แผลจากการรักษามีขนาดเล็กจำนวน 2-3 รูจึงช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวกว่าการผ่าตัดแบบเปิดครับ...”



ผู้ป่วยเผย “พ้นทุกข์ทรมานเหมือนได้ชีวิตใหม่”

รุปว่า “คุณสมศักด์” ได้ใช้เวลาเข้ารับทำการรักษาโดยการผ่าตัดทั้งหมด 3 รอบเป็นระยะเวลา 1 ปีกว่า ซึ่งเจ้าตัวเผยความรู้สึกดังนี้

“...หลังจากรักษาแล้วผมไม่มีอาการปวดเข่ากับข้อเท้ามารบกวนอีกเลย ทั้งยังกลับมาเดินได้อย่างมั่นใจ ยิ่งกว่านั้นคือแนวขา 2 ข้างก็กลับมาตรงเหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดอาการทำให้หมดกังวลเรื่องว่าจะเสียบุคลิก ก็เหมือนกับว่าได้ชีวิตใหม่กลับคืนมา เพราะฉะนั้นจึงขอฝากมาบอกเล่าให้ท่านที่เจออาการปวดเข่า ปวดข้อเท้าแบบผมและอยากจะหายจากอาการที่เป็นอยู่ละก็...อย่าไปกลัวการผ่าตัดนะครับเพราะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด...ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน-เหมือนกับแค่ว่าเราหลับไป พอตื่นมาก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว และหลังจากนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมาก เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยครับ...ส่วนการปฏิบัติตัวหลังจากนั้นก็แค่ทำกายภาพและฝึกทำท่าบริหารร่างกายตามที่โรงพยาบาลได้ให้คำแนะนำอย่างเคร่งครัดเป็นใช้ได้ครับ...”


ต้องขอบคุณ “คุณสมศักดิ์ ปาลีตา” ที่ได้กรุณาถ่ายทอดประสบการณ์ความทุกข์ทรมานจาก “โรคข้อเข่า-ข้อเท้าเสื่อมระยะสุดท้าย” ตลอดทั้งขอขอบคุณข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์จาก “คุณหมอปรัชวาล” หรือ นพ.ปรัชวาล เอี่ยมพร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ เชี่ยวชาญพิเศษด้านข้อเท้าโรงพยาบาลลานนา” มา ณ โอกาสนี้ด้วยเลยนะครับ

เข่าเสื่อม เลี่ยงไม่ได้ แต่ชะลอได้  ... มาตรวจเช็คสุขภาพข้อเข่าตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินอาการ วางแผนการรักษา รวมทั้งการดูแลตัวเอง เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา ข้อเข่าเสื่อมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ได้ที่ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา โทร.052-134-777





โรงพยาบาลลานนาจัดการอบรม เรื่อง “ภัยมืด...จากการละเลยการใส่ใจสุขภาพ”

 


โรงพยาบาลลานนา จัดการอบรมโครงการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพเจ้าหน้าที่
โรงพยาบาลลานนา เรื่อง “ภัยมืด...จากการละเลยการใส่ใจสุขภาพ”

        เมื่อวัน อังคาร ที่ 6 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุม ชั้นใต้ดิน อาคาร A โรงพยาบาลลานนา 3 จ.เชียงใหม่ : คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ENV) โรงพยาบาลลานนา ได้จัดอบรมโครงการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพเจ้าหน้าที่ ประจำปี 2565 ในหัวข้อเรื่อง “ภัยมืด...จากการละเลยการใส่ใจสุขภาพ”


        วิทยากรนำโดย นายแพทย์ สิทธิราช จันทรัตน์ แพทย์ประจำศูนย์ตรวจสุขภาพ, พว.สุธีรา ตันติสัณถวพงษ์, พว.ฌานุมาศ สายแวว, คณะกรรมการสวัสดิการฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในการอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้ แก่เจ้าหน้าที่ พนักงานโรงพยาบาลลานนา ที่มีกลุ่มเสี่ยงคือ มี BMI มากกว่า 23 kg/m โดยแบ่งการอบรมทั้งหมด 3 รุ่น ภายในเดือนธันวาคม 2565 นี้


         มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่พนักงานของโรงพยาบาลลานนา มีความรู้ในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย และการมีสุขภาพจิตที่ดี ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งเป็นการป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการละเลยการใส่ใจสุขภาพ



6 ธันวาคม 2565

โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต

 โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต

    นพ.ศุภชัย สินไตรรัตน์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลลานนา และ พญ.ทิชานันท์ ณรงค์ชัย อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต พร้อมด้วยทีมพยาบาลวิชาชีพแผนกไตเทียม ให้การต้อนรับ คณะอนุกรรมการฯ นำโดย นพ.วุฒิเดช โอภาศเจริญสุข และ พญ.ไกรวิพร เกียรติสุนทร กรรมการการตรวจรับรองมาตรฐานฯ จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ในโอกาสที่ได้เข้ามาตรวจรับรองมาตรฐานการรักษาโดยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมของแผนกไตเทียม โรงพยาบาลลานนา เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มมากขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ณ แผนกไตเทียม โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่


    ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลลานนา เปิดให้บริการอย่างครบวงจรเกี่ยวกับไตเทียม เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยโรคไตวายทั้งแบบเรื้อรัง และเฉียบพลัน ที่ต้องได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ภายใต้สภาพแวดล้อมสวยงาม ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย สะอาด มีความเป็นส่วนตัว มีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยและญาติ

มีอายุรแพทย์เฉพาะทางโรคไต และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ผ่านการตรวจตราเพื่อรับรองมาตรฐานโดยสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย และแพทยสภาแล้ว ดำเนินการโดย พญ.ทิชานันท์ ณรงค์ชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคไต เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ


เวลาเปิดบริการ : ศูนย์ไตเทียม โรงพยาบาลลานนา เปิดให้บริการ ในวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ณ ชั้น 3 อาคาร C โรงพยาบาลลานนา เบิกจ่ายได้ตามสิทธิ์ประกันสังคม และเบิกตรงข้าราชการ ผู้สนใจจองคิวฟอกไต สามารถโทรจองคิวได้ที่ โทร.052 134777 ต่อ 4340 ศูนย์ไตเทียม

สถานกงสุลอินเดีย จ.เชียงใหม่ เข้าเยี่ยม โรงพยาบาลลานนา

     สถานกงสุลอินเดีย จ.เชียงใหม่ เข้าเยี่ยม โรงพยาบาลลานนา 

    วันที่ 2 ธันวาคม 2565 … นพ.ดุสิต ศรีสกุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา พร้อมนางสาวจันทนา จารุเศรณี หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์ , นางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด ให้การต้อนรับ คุณรามจี รามาสวามี รองกงสุลฝ่ายการพาณิชย์ สถานกงสุลอินเดีย ประจำจังหวัดเชียงใหม่

     เนื่องในโอกาสที่ได้เข้ามาเยี่ยมชม สถานที่ โรงพยาบาลลานนา และแนะนำตัวพูดคุย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับการให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ และชาวอินเดียที่มาพักอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ ทั้งนี้ โรงพยาบาลลานนา เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ที่มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยชาวต่างชาติ มีล่ามภาษาไว้ให้บริการสำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มารับบริการที่ โรงพยาบาลลานนา



28 พฤศจิกายน 2565

รพ. ลานนา ร่วมออกบูธตรวจสุขภาพ บ.เมืองไทยประกันชีวิต

โรงพยาบาลลานนา ร่วมออกบูธตรวจสุขภาพ มหกรรมดูแลสุขภาพ 

และวางแผนความมั่งคั่งทางการเงิน บ.เมืองไทยประกันชีวิต

    วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้อง Convention บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)   : ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา นำโดยนางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด นำเจ้าหน้าที่พยาบาล และทีมงาน ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์ พร้อมออกหน่วยตรวจสุขภาพเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำด้านสุขภาพให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน Health For You “มหกรรมดูแลสุขภาพ และวางแผนความมั่งคั่งทางการเงิน” ประจำปี 2565 โดยมีคุณมงคล มีชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ พร้อมพาตัวแทนประกันชีวิต และลูกค้า VIP ที่ร่วมงาน เยี่ยมบูธประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลลานนา

    สำหรับงาน Health For You “มหกรรมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และวางแผนทางภาษี” มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนเชิญลูกค้า และตัวแทนประกันชีวิต เข้าร่วมงานเสวนาในหัวข้อ “โรคมะเร็ง” วิทยากรบรรยายโดย พญ.รัตติยา ชีวเกรียงไกร อายุรแพทย์ชำนาญเฉพาะทางมะเร็งและโลหิตวิทยา เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ และความรู้เรื่องโรคมะเร็ง ที่ถือเป็นภัยร้ายใกล้ตัว โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก  และรับคำปรึกษาพิเศษ “Health is Wealth” จากคุณสมชาย เจริญกอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนสุขภาพ พร้อมกิจกรรมอีกมากมาย ทั้งการเยี่ยมชมบูธกับโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ 

    สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา ได้ร่วมสนบสนุนบัตรตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม มูลค่า 3,500 บาท จำนวน 3 รางวัล เป็นของรางวัลแก่ผู้โชคดีในงานอีกด้วย 

21 พฤศจิกายน 2565

โรงพยาบาลลานนา ร่วมออกบูธตรวจสุขภาพ งาน AIA Health Forum

 โรงพยาบาลลานนา ร่วมออกบูธตรวจสุขภาพ งาน AIA Health Forum

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 : ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา นำโดยนาง จิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด นำเจ้าหน้าที่พยาบาล และทีมงาน ร่วมออกบูธประชาสัมพันธ์ ในงาน AIA Health Forum ประจำปี 2565 จัดโดยบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษและกิจกรรมลูกค้า หัวข้องาน "มะเร็ง.. หัวใจ ภัยร้ายใกล้ตัว"



ในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลา 12.00 - 17.00 น.ะ ณ ห้อง แกรนด์ ล้านนาบอลรูม โรงแรมแชงกรีล่า เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนเชิญลูกค้าและตัวแทนประกันชีวิต เข้าร่วมงานเสวนาในหัวข้อ "เตรียมพร้อมรับมือ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคยอดฮิตของคนไทย" จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง พร้อมรับฟังประสบการณ์การเกิดโรคร้ายจากแขกรับเชิญพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าตระหนักถึงการดูแลสุขภาพ และโรคที่ถือเป็นภัยร้ายใกล้ตัว โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 500 ท่าน ภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมออกบูธตรวจสุขภาพเบื้องต้นจากหลายโรงพยาบาล และบูธแสดงสินค้าและบริการจากบริษัทชั้นนำต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำด้านสุขภาพ และบริการแก่ลูกค้าที่สนใจ



กิจกรรม AIA Health Forum ในครั้งนี้ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา ได้ร่วมสนับสนุนบัตรตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม เป็นของรางวัลแก่ผู้โชคดีในงานอีกด้วย

โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม การดูแลผู้ป่วย Stroke

 


โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม การดูแลผู้ป่วย Stroke

    เมื่อวันที่ พุธ ที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้องประชุม1 ชั้น3 อาคารC โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลลานนา ได้จัดการฝึกอบรมในหัวข้อเรื่อง การดูแลผู้ป่วย Stroke ให้กับฝ่ายการพยาบาลและฝ่ายสนับสนุนทางการแพทย์ โดยมี นายแพทย์ประชา กัญญาประสิทธิ์ แพทย์ชำนาญเฉพาะทางศัลยกรรมโรคหลอดเลือดสมอง เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายการพยาบาล แผนกผู้ป่วยใน, ผู้ป่วยนอก, ผู้ป่วยหนัก, ฉุกเฉิน, ห้องคลอด-ทารกแรกเกิด, ห้องผ่าตัด



    ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แพทย์และพยาบาลผู้เข้ารับการอบรม ให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในทุกระยะ รวมทั้งเรียนรู้ประสบการณ์ตรงและเสริมสร้างวิสัยทัศน์ การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากวิทยากร พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พัฒนาสัมพันธภาพ พัฒนาเครือข่ายความรู้และความร่วมมือในการดูแลผู้ป่วยได้ในอนาคต รวมไปถึงการวินิจฉัยอาการแรกรับในภาวะฉุกเฉิน และนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น ได้อย่างถูกต้อง ทันเวลา ปลอดภัย รวมทั้งลดอัตราการเสียชีวิตได้ของผู้ป่วยได้ทันที



9 พฤศจิกายน 2565

“รพ.ลานนา” เพิ่มศักยภาพและความพร้อม... เพื่อลดภัย “โรคหลอดเลือดสมอง” ให้ชาวเชียงใหม่

 



ทางเลือกใหม่-ลดผ่าตัดอวัยวะสำคัญ

นแวดวงคนป่วยที่รู้ตัวว่าจะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการ “ผ่าตัด” เพื่อจัดการกับต้นตอของปัญหาที่เป็น “ตัวป่วน” ที่มาสร้างความป่วยไข้ให้ตัวเองนั้นหากเป็นแค่ผ่าตัดย่อยก็คงไม่ทำให้ต้องมากังวลใจนัก แต่หากเป็นกรณีที่เข้าข่ายว่าถึงกับต้อง “ผ่าตัดใหญ่” ละก็ ไม่ใครก็ใครคงต้องมีความหวั่นอกหวั่นใจเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าต้นตออยู่ที่อวัยวะสำคัญ เช่น “หัวใจ” หรือ “สมอง” ด้วยแล้วความหวั่นอกหวั่นใจจะไม่เกิดกับคนป่วยเท่านั้น หากแต่จะทำให้คนใกล้ชิดต้องพลอยออกอาการ “ปอดกระเส่า” แทบจะทั้งครอบครัวก็ว่าได้โดยมีตัวอย่างอ้างอิงให้ได้ยินกันมาตลอดระยะเวลาหลาย ๆ ปีก่อนหน้านี้  ที่มีกรณีของ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ” ออกอาละวาดบ่อย ๆ ขณะที่การยื้อชีวิตให้ผู้ป่วยมักจะหนีไม่พ้น “การผ่าตัดทำทางเบี่ยง” ซึ่งคุณหมอต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกผู้ป่วยเป็นแนวยาวแต่ก็จำใจยอมเพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายโดยที่ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดต้องยอมรับ “ความเสี่ยงสูง” แบบนั้นเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นมากกว่านั้น...จนกระทั่งวัน-เวลาผ่านไปพร้อมกับความก้าวหน้าของวงการแพทย์ที่ได้มีการ “แจ้งเกิด” กระบวนการรักษาแบบใหม่โดยการ “ทำบอลลูน-ขยายหลอดเลือดหัวใจ” มาเพิ่ม “ทางเลือก” ให้ผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นต้อง “ผ่าตัดเปิดหน้าอก” ที่เป็นมาตรฐานการรักษามาก่อน  และเพียงไม่นานหลังจากนั้น “การทำบอลลูน-ขยายหลอดเลือดหัวใจ” ก็เป็นที่ยอมรับและมีการนำมาใช้ประโยชน์กับผู้ป่วยอย่างกว้างขวางมาถึงวันนี้ อีกทั้งยังมีวิวัฒนาการก้าวหน้ายิ่งขึ้นจากเริ่มแรกซึ่งใช้วิธี...เจาะเส้นเลือดที่ขาหนีบเป็นช่องทางสำหรับสอดใส่สายสวนนำบอลลูนเข้าไปสู่ตำแหน่งที่หลอดเลือดตีบในหัวใจ ก็สามารถเพิ่มช่องทางใหม่โดยการเปิดช่องทางโดยอาศัย “เส้นเลือดที่ข้อมือ” แทน



เช่นเดียวกับกรณี “โรคหลอดเลือดสมอง” ซึ่งการรักษาในอดีตเมื่อถึงขั้นสุดท้ายแล้วคุณหมอก็จะพิจารณาใช้การผ่าตัดสมองเพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วย และเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับผู้ป่วยที่จะต้องเกิดแผลขนาดใหญ่ที่ศีรษะ ขณะที่การฟื้นตัวหลังการผ่าตัดต้องใช้ระยะเวลานาน จึงทำให้ผู้ป่วยทางสมองมี “ความรู้สึกเชิงลบ” หากจะต้องการเข้ารับการผ่าตัดสมองซึ่งก่อให้เกิดความวิตก-น่ากลัวกับหัตถการที่ซับซ้อนแบบนี้...และในที่สุดก็ได้ก่อให้เกิดวิวัฒนาการก้าวหน้าทางการแพทย์ในลักษณะคล้ายคลึงกับการทำบอลลูน-ขยายหลอดเลือดหัวใจ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเกิดความ “หวาดวิตก” กับการผ่าตัดสมองเมื่อเกิดภาวะ “หลอดเลือดสมองตีบ” หรือ “มีลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมอง” คุณหมอก็สามารถเปลี่ยนมาเลือกทำหัตถการ “การสวนหลอดเลือดสมอง” โดยการเจาะเส้นเลือดที่บริเวณขาหนีบของผู้ป่วยเพื่อใช้เป็นทางผ่านไปสู่หลอดเลือดสมองที่มีความผิดปกติ แล้วจึงทำการรักษาด้วยการ “ใส่ขดลวดถ่างขยายหลอดเลือดไม่ให้ตีบตัน” หรือจะทำการ “ลากลิ่มเลือด” ที่อุดตันออกมาโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดศีรษะที่เป็นมาตรฐานมาก่อน...!!!  


เพิ่มงบฯ พัฒนารับมือ “โรคหลอดเลือดสมอง”

วิวัฒนาการก้าวหน้าทางการแพทย์ดังที่ “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” ยกมาสาธยายนี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการบำบัดรักษาผู้ป่วยเคราะห์ร้ายที่เจอ “ภัยเงียบ-โรคหลอดเลือดสมอง” ซึ่ง “นพ.ดุสิต ศรีสกุล...ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลานนา” อธิบายว่า

“...โรคหลอดเลือดในสมองมีอันตรายมาก หากเกิดกรณีหลอดเลือดในสมองตีบ ตัน หรือแตกและหากผู้ป่วยได้รับรักษาล่าช้าจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าภาวะอัมพฤกษ์-อัมพาตตามมา ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยอาศัยเทคโนโลยีในการตรวจวินิจฉัยที่ทันสมัย และมีความพร้อมในการรักษาไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการ และการผ่าตัดซึ่งล้วนต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เพื่อเสริมสร้างการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุผลการรักษาสูงสุด ซึ่งปัจจุบัน ศูนย์สวนหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลานนา ได้จัดความพร้อมด้วยการจัดระบบ Stroke Fast track เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เริ่มเกิดอาการไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง จึงได้จัดเตรียมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับการดูแลโรคปวดหัว โรคสมองและระบบประสาท โรคหลอดเลือดสมอง โดยมีศักยภาพในการตรวจหาภาวะหลอดเลือดที่คอตีบอีกด้วยเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และลดภาวะอัมพฤกษ์-อัมพาตให้กับผู้ป่วยด้วยโรคทางสมองครับ...และใคร่ขอเรียนให้ทราบว่าปัจจุบันโรงพยาบาลลานนา ได้ใช้งบประมาณเพิ่มอีกกว่า 25 ล้านบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีประจำ ห้องปฏิบัติการสวนหลอดเลือด เพื่อให้บริการรักษาแก่ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านหลอดเลือดสมองโดยพร้อมให้การรักษาทั้งแบบผ่าตัดและไม่ต้องผ่าตัดครับ...”


พัฒนา “หัตถการสวนผ่านหลอดเลือดข้อมือ”

ย่างไรก็ตาม กรณีของการทำหัตถการ “สวนหลอดเลือดสมอง” โดยการเจาะเส้นเลือดที่บริเวณขาหนีบของผู้ป่วยเป็นทางผ่านไปสู่หลอดเลือดสมองที่มีความผิดปกตินั้น แม้จะเป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากลัวเหมือนการผ่าตัดสมอง แต่ก็เป็นไปได้ว่าผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บบริเวณขาหนีบหลังการรักษา จึงส่งผลให้ “ศูนย์สวนหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลานนา”  โดย “นพ.ณัฐวรรธ วิฑูรย์ กับ นพ.ศุภชาติ แจวจันทึก.... ศัลยแพทย์ระบบประสาท และแพทย์รังสีร่วมรักษาทางระบบประสาท ได้พัฒนาเทคนิคการทำหัตถการโดย “การสวนหลอดเลือดแบบใหม่ ผ่านทางข้อมือ” หรือเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘Transradial Approach Cerebral Angiography’ ซึ่งเป็นเทคนิคการรักษาแบบเดียวกัน แต่เจาะผ่านข้อมือเข้าไปสู่หลอดเลือดสมองที่มีปัญหา และแม้ว่าจะเป็นเส้นทางหลอดเลือดที่เข้าถึงยากกว่าทางขาหนีบ แต่ให้ผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจมากกว่าวิธีเดิม โดยในระหว่างการรักษาผู้ป่วยรู้สึกตัวตลอดเวลาและหลังการรักษาจะใช้เพียงไม้ค้ำยันบริเวณข้อมือเท่านั้น ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอนพักแค่ 1 คืนก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้...และกรณีการทำหัตถการผ่านข้อมือถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ที่สามารถรักษาด้วยเทคนิคนี้...


หลังจากได้เผยถึงความสำเร็จดังกล่าวนี้แล้ว “คุณหมอดุสิต” ยังได้กล่าวเสริมว่า

“...ศูนย์สวนหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลานนา มีความพร้อมสำหรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยในกลุ่มของโรคหลอดเลือดสมองให้เป็นไปตามมาตรฐาน ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ให้ผลรวดเร็วแม่นยำโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ จึงสามารถช่วยลดระยะเวลาการนอนในโรงพยาบาล ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว และคืนสู่การใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเร็วขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่มีอาการหลอดเลือดทางสมอง แตก ตีบ ตัน และจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาที่รวดเร็วว่องไวเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาตครับ...”

“ศูนย์สวนหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลลานนา” รักษาและฟื้นฟูโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยเทคโนโลยีแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด  ติดต่อสอบถาม  โทร.052-134777

โรงพยาบาลลานนา พร้อมเป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง