โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

11 ธันวาคม 2563

โรงพยาบาลลานนา ออกหน่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 ร้าน goodbar

 


โรงพยาบาลลานนา ออกหน่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 ร้าน Goodbar ค้นหากลุ่มเสี่ยง ป้องกันการระบาดระลอกที่ 2

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ณ ร้านกู๊ดบาร์ ไอคอนปาร์ค เชียงใหม่ ... จากสถานการณ์ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในจังหวัดเชียงใหม่ โดยทั้งหมดเดินทางกลับมาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยพบว่าพวกเธอไปเที่ยว ทั้งผับ และคอนเสิร์ต จึงจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มเข้ม และตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งหมด จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ร้านอาหาร ผับบาร์ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จำเป็นจะต้องมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างจริงจังกันอีกครั้ง ซึ่งหนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มของพนักงานของร้าน Goodbar โดยจัดให้มีการใส่หน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์บริการ จำกัดจำนวนโต๊ะ เว้นระยะห่าง และมีการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 แก่พนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคน จำนวน 80 คน โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลลานนา ที่ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล มาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ณ ร้านกู๊ดบาร์ ไอคอนปาร์ค เชียงใหม่ 

โดยทีมออกหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลลานนานี้ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่แล้ว ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ นำทีมโดย นางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมให้บริการ Swap เชื้อ หรือเก็บตัวอย่างเชื้อ จากโพรงจมูก และลำคอ แล้วส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ ของโรงพยาบาลลานนา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ผ่านการตรวจมาตรฐาน รับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการเป็นห้องปฏิบัติการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี แบบ Real-Time PCR ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งผลการตรวจจะใช้เวลารู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืนยันในการปลอดจากเชื้อโควิด-19





โรงพยาบาลลานนา ซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ประจำปี 2563


โรงพยาบาลลานนา ซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ประจำปี 2563  เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 น. ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา ซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ โดยสถานการณ์จำลองปีนี้ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์เวียงพิงค์ ว่ามีอุบัติเหตุรถปิคอัพรับส่งคนงานชนกับฟุตบาต บริเวณทางลอดแยกข่วงสิงห์ มีผู้บาดเจ็บประมาณ 9 ราย จึงได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่พยาบาล พร้อมกับรถพยาบาล ระดับ Advance เข้าไปประเมินสถานการณ์ พร้อมกับช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในเบื้องต้น ก่อนจะนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลลานนา เพื่อช่วยเหลือและรักษาอย่างทันท่วงที   

การซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ของ โรงพยาบาลลานนานี้ จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพื่อพักผ่อนจำนวนมาก  ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา จึงได้จัดให้มีการซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่ ประจำปี 2563 ขึ้น  โดยมีคุณศรีทัย สีทิพย์ หัวหน้างานบริการกลาง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ในครั้งนี้  ในการซ้อมแผนอุบัติภัยหมู่จะมีการประกาศโค้ดฉุกเฉินที่กำหนดไว้ และมีเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล พร้อมด้วยล่ามภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น และแผนกที่เกี่ยวข้องทุกแผนก เข้าร่วมซ้อมอย่างสมจริง เพื่อเตรียมพร้อม และฝึกซ้อมไว้ หากเกิดสถานการณ์จริง จะได้มีการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ณ โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่

 





โรงพยาบาลลานนา ออกหน่วยตรวจโควิดเรือนจำกลาง

 



 โรงพยาบาลลานนา ออกหน่วยตรวจโควิด-19 เจ้าหน้าที่พนักงานเรือนจำกลางเชียงใหม่

“เป็นที่รู้ดีกันอยู่ว่า การอยู่รวมตัวกันอย่างแออัดใกล้ชิด เป็นหนึ่งในปัจจัยทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดได้รวดเร็ว โดยเฉพาะ เรือนจำ เป็นพื้นที่ปิด มีนักโทษอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง เป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค แม้เวลานี้ในเรือนจำยังเป็นพื้นที่ที่ปลอดเชื้อ กรมราชทัณฑ์ จึงมีแนวทางการป้องกัน ควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอย่างใกล้ชิด” 

.เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ณ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ... โรงพยาบาลลานนา ร่วมมือกับ เรือนจำกลางเชียงใหม่ นำโดย นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ จัดโครงการเฝ้าระวัง ควบคุมป้องกัน การระบาดของโรคติดต่อโควิด-19 ออกหน่วยเคลื่อนที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มของพนักงาน เจ้าหน้าที่ เรือนจำกลางเชียงใหม่ จำนวน 183 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ในจังหวัดเชียงใหม่ กรมราชทัณฑ์จึงได้กำชับให้เรือนจำกลางเชียงใหม่ ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด จึงมีความจำเป็นต้องงดการให้บริการเยี่ยมญาติเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 14 วัน (30 พฤศจิกายน – 9 ธันวาคม 2563) ซึ่งนอกจากมาตรการการป้องกันโรคระบาดของทางกรมราชทัณฑ์แล้ว เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ มีมาตรการเฝ้าระวังโรคระบาดใหม่ในกลุ่มของบุคลากร เจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยจัดให้มีการใส่หน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์บริการ และด้วยการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน  โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลลานนา ที่ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล มาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ณ เรือนจำกลางเชียงใหม่ เพื่อเป็นการลดโอกาสของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่  

.โดยทีมออกหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลลานนานี้ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่แล้ว ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ นำทีมโดย นางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมให้บริการ Swap เชื้อ หรือเก็บตัวอย่างเชื้อ จากโพรงจมูก และลำคอ แล้วส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ ของโรงพยาบาลลานนา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ผ่านการตรวจมาตรฐาน รับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการเป็นห้องปฏิบัติการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี แบบ Real-Time PCR ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งผลการตรวจจะใช้เวลารู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืนยันในการปลอดจากเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการ สปสช. ตรวจแล็บโควิด-19 เชิงรุกนอกสถานที่ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2563 นี้เท่านั้น หากสถานประกอบการ หรือหน่วยงานใดเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงในการเฝ้าระวังการติดเชื้อระลอก 2 จากประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการโรงพยาบาลลานนา ไปออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 สามารถติดต่อประสานงาน ได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา โทร.052 134 777 ในเวลาราชการ






9 ธันวาคม 2563

รพ.ลานนา ร่วมแสดงความยินดี พิธีเปิดสำนักงาน คปภ.ภาค 1 เชียงใหม่

 

รพ.ลานนา ร่วมแสดงความยินดี พิธีเปิดสำนักงาน คปภ.ภาค 1 เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ณ สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) … ตัวแทนผู้บริหาร โรงพยาบาลลานนา นำโดยคุณจันทนา จารุเศรณี หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์ , คุณจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด และ คุณหัทยา เลิศนิธิกุล หัวหน้าแผนกการเงิน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมมอบของที่ระลึกจากทางโรงพยาบาลลานนา ให้กับ คุณนาตญา  ศิริสายัณห์ ผู้อำนวยการ คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) เนื่องในโอกาสพิธีเปิดสำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) 

โดยพิธีเปิดสำนักงานนี้ ได้รับเกียรติจาก นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง , ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. พร้อมคณะกรรมการ รวมทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ เดินทางมาเป็นประธานเปิดในพิธี โดยมีแขกผู้มีเกียรติทั้งจากทางภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก เข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม

ประกันสังคมเชียงใหม่ ร่วมกับ รพ.ลานนา ตรวจสุขภาพผู้ประกันตน มหาวิทยาลัยพายัพ



เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ... สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับโรงพยาบาลลานนา จัดโครงการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคเชิงรุกในสถานประกอบการ ประจำปี 2563 "Healthy Thailand ผู้ประกันตน สุขภาพดี ตามฐานวิถีชีวิตใหม่" ณ มหาวิทยาลัยพายัพ 


สำหรับ โครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุกในสถานประกอบการ ประจำปี ๒๕๖๓ "Healthy Thailand ผู้ประกันตน สุขภาพดี ตามฐานวิถีชีวิตใหม่” ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทาง โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ ที่ได้นำทีมพยาบาลวิชาชีพ ออกหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ แก่ผู้ประกันตนตามสิทธิ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด นำโดยนางสาวจันทนา จารุเศรณี หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์ และนางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมกันนี้ ยังมีการบรรยายให้ความรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องโรคเรื้อรัง และทำกิจกรรมที่มุ่งเน้นการตรวจสุขภาพ ป้องกันโรค การให้ความรู้ในการป้องกันโรค การเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงจากโรคเนื่องจากการทำงาน และโรคไม่เนื่องจากการทำงาน การปรับสภาพแวดล้อม และสร้างความปลอดภัยในสถานประกอบการ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกันตน มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ตามฐานวิถีชีวิตชีวิตใหม่ (New Normal) คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และเว้นระยะห่างทางสังคม โดยมี นางภัณฑิรา ตาสา พยาบาลอาชีวอนามัย โรงพยาบาลลานนา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้


นอกจากนี้ นางสาวขวัญใจ พัฒนาเศรษฐ์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ จากสำนักงานประกันสังคม เชียงใหม่ ได้นำทีมงานจากสำนักงานประกันสังคมฯ โดยมีคุณมยุเรศ คนหมั่น เจ้าพนักงานแรงงานชำนาญการ เป็นวิทยากรมาให้ความรู้ด้านประกันสังคม สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้ประกันตน ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การใช้สิทธิการตรวจสุขภาพ การใช้สิทธิด้านทันตกรรม 900 บาทต่อคนต่อปี การประชาสัมพันธ์มาตรา 39 , 40 ให้ผู้ประกันตนแนะนำคนในครอบครัวสมัคร เพื่อได้รับสิทธิคุ้มครองจากทางสำนักงานประกันสังคม รวมถึงขอเชิญชวนผู้ประกันตนทุกท่าน ให้มาใช้สิทธิ์ของท่าน โดยสามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพ ตามโปรแกรม ของสำนักงานประกันสังคม และทำฟันตามสิทธิ์ปีละ 900 บาท ต่อคน ต่อปี ได้ในสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม ได้ทุกแห่งในประเทศไทย

 



กองพลทหารราบที่ 7 ร่วมกับ รพ.ลานนา จัดโครงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19

 



กองพลทหารราบที่ 7 ร่วมกับ รพ.ลานนา จัดโครงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19 ตรวจโควิดในค่ายทหาร ป้องกันการระบาดระลอกที่ 2

เพื่อเป็นการป้องกันควบคุมสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในระลอกที่ 2 ที่อาจมาประเทศเพื่อนบ้าน ชายขอบติดชายแดน โดยเฉพาะประเทศเมียนม่า ซึ่งขณะนี้มีการติดเชื้อ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และมีบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทหารเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนอย่างเข้มแข็ง และอาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ณ กองพลทหารราบที่ 7 ... พล.ต. จรัส ปัญญาดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ร่วมกับโรงพยาบาลลานนา จัดโครงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19 ผู้บังคับบัญชาห่วงใยกำลังพลทุกนาย เข้าตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้โรคโควิด-19 ในกลุ่มกำลังพลนายทหาร นายสิบ และพลทหาร จำนวน 131 นาย

โดยทีมออกหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลลานนานี้ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่แล้ว ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ นำทีมโดยนางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมให้บริการ Swap เชื้อ หรือเก็บตัวอย่างเชื้อ จากโพรงจมูก และลำคอ แล้วส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ ของโรงพยาบาลลานนา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ผ่านการตรวจมาตรฐาน รับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการเป็นห้องปฏิบัติการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี แบบ Real-Time PCR ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งผลการตรวจจะใช้เวลารู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืนยันในการปลอดจากเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการ สปสช. ตรวจแล็บโควิด-19 เชิงรุกนอกสถานที่ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2563 นี้เท่านั้น หากสถานประกอบการ หรือหน่วยงานใด เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงในการเฝ้าระวังการติดเชื้อระลอก 2 จากประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการโรงพยาบาลลานนา ไปออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 สามารถติดต่อประสานงาน ได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา โทร.052 134 777 ในเวลาราชการ






รพ.ลานนา ออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 ตลาดป่าข่อยใต้

 



เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ณ ตลาดป่าข่อยใต้ โรงพยาบาลลานนา นำทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ออกหน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 ค้นหาผู้ติดเชื้อ และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เชิงรุก ณ ตลาดป่าข่อยใต้ เพื่อคัดกรอง และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ที่อาจเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีพ่อค้า แม่ค้า และเจ้าหน้าที่พนักงานจากตลาดป่าข่อยใต้ ให้ความสนใจ และลงทะเบียน เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองตามขั้นตอนจำนวนมาก   

โดยทีมออกหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลลานนานี้ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่แล้ว พร้อมให้บริการ Swap เชื้อ หรือเก็บตัวอย่างเชื้อ จากโพรงจมูก และลำคอ แล้วส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ ของโรงพยาบาลลานนา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ผ่านการตรวจมาตรฐาน รับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการเป็นห้องปฏิบัติการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี แบบ Real-Time PCR

การออกปฏิบัติงานออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด19 นอกสถานที่ครั้งนี้ ประกอบไปด้วยทีมแพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ และอุปกรณ์ในการตรวจแล็บครบถ้วน ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งผลการตรวจจะใช้เวลารู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืนยันในการปลอดจากเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ #โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการ สปสช. ตรวจแล็บโควิด-19 คนไทยทุกคน ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากสถานประกอบเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ในการเฝ้าระวังการติดเชื้อระลอก 2 จากประเทศเพื่อนบ้านนี้ ต้องการโรงพยาบาลลานนา ออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 สามารถติดต่อประสานงาน ได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา โทร.052 134 777 ในเวลาราชการ




ป.พัน.7 พล.ร.7 ร่วมกับ รพ.ลานนา จัดโครงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19 .. ตรวจโควิดในค่ายทหาร ป้องกันการระบาดระลอกที่ 2

 


เพื่อเป็นการป้องกันควบคุมสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในระลอกที่ 2 ที่อาจมาประเทศเพื่อนบ้าน ชายขอบติดชายแดน โดยเฉพาะประเทศเมียนม่า ซึ่งขณะนี้มีการติดเชื้อ และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และมีบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทหารเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนอย่างเข้มแข็ง และอาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ณ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า พันโท วรปรัชญ์ กาศสกุล ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 กองพลทหารราบที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้าร่วมกับโรงพยาบาลลานนา จัดโครงการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโควิด-19 ผู้บังคับบัญชาห่วงใยกำลังพลทุกนาย เข้าตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้โรคโควิด-19 ในกลุ่มกำลังพลทหาร และทหารเกณฑ์ จำนวน 118 นาย 

โดยทีมออกหน่วยตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลลานนานี้ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่แล้ว ประกอบไปด้วย ทีมแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ นำทีมโดยนางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมให้บริการ Swap เชื้อ หรือเก็บตัวอย่างเชื้อ จากโพรงจมูก และลำคอ แล้วส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ ของโรงพยาบาลลานนา ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการที่ผ่านการตรวจมาตรฐาน รับรองจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในการเป็นห้องปฏิบัติการ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี แบบ Real-Time PCR ตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง ซึ่งผลการตรวจจะใช้เวลารู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการยืนยันในการปลอดจากเชื้อโควิด-19 

ทั้งนี้ โรงพยาบาลลานนา เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชน ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการ สปสช. ตรวจแล็บโควิด-19 เชิงรุกนอกสถานที่ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2563 นี้เท่านั้น

หากสถานประกอบการ หรือหน่วยงานใด เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยงในการเฝ้าระวังการติดเชื้อระลอก 2 จากประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการโรงพยาบาลลานนา ไปออกหน่วยคัดกรองตรวจโควิด-19 สามารถติดต่อประสานงาน ได้ที่ ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลานนา โทร.052 134 777 ในเวลาราชกา



8 ธันวาคม 2563

“ไทรอยด์เป็นพิษ” ถึงขั้นต้องกำจัด...แต่ไม่อยากมี “แผลเป็น”... รพ.ลานนาใช้เทคโนฯ ส่องกล้องผ่าตัดผ่านช่องปากฯ ไร้ปัญหา!!!

 


อยู่ดี ๆ ก็มีก้อนเนื้อบวมโตขึ้นผิดสังเกตที่คอ

าว ๆ ปลายปีที่แล้วได้เกิดความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณสุภาพสตรีชาวเชียงใหม่ โดยเจ้าตัวได้พบว่ามีก้อนเนื้อผิดปกติมีลักษณะบวมๆ อยู่ที่ลำคอโดยไม่รู้สึกเจ็บ ทั้งยังเกิดอาการเหนื่อยง่ายมีเหงื่อออกมาก อารมณ์ก็ค่อนข้างแปรปรวน วิตกกังวล หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ โดยยังมีอีกหลายอาการที่เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันจนเกิดความไม่สบายใจจนต้องไปหาคุณหมอเพื่อตรวจให้รู้แท้แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งหลังจากที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจแล้วพบว่าผุ้ป่วยซึ่งมีนามว่า “คุณสุพิศ” เจอ “โรคไทรอยด์” เล่นงานจึงให้คุณหมอรักษาด้วยการเจาะน้ำที่คอออกพร้อมกับรับยามาทานเพื่อควบคุมอาการของโรคด้วย แต่ที่ผู้ป่วยรายนี้ไม่เข้าใจคือ...หลังจากการรักษาไม่กี่เดือนเจ้าก้อนเนื้อที่ว่านี้ได้เกิดอาการบวมขึ้นมาอีกจนต้องกลับไปปรึกษาคุณหมอเพื่อหาทางรักษาให้หายขาด ซึ่งในครั้งนี้คุณหมอได้อธิบายให้ทราบว่ามีทางเลือกในการรักษา 2 วิธี โดยวิธีหนึ่งคือ “เจาะและดูดน้ำที่คอออก ร่วมกับการทานยา” หรืออีกวิธีคือรักษาโดย “การผ่าตัด” เพื่อให้หายขาด แต่ด้วยเหตุที่ผู้ป่วยรายนี้มีความกังวลเรื่องการผ่าตัด เพราะเท่าที่ทราบคือใครที่เคยเข้ารับการผ่าตัดเมื่อก่อนจะต้องมีรอยแผลเป็นทางยาวที่คอหลังการผ่าตัด รวมทั้งการเปล่งเสียงที่จำเป็นต้องใช้ในขณะทำงาน ซึ่งล้วนส่งผลให้ผู้ป่วยรายนี้เกิดความไม่มั่นใจและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรักษาแบบใด แต่เมื่อเวลาผ่านไปก้อนเนื้อบริเวณเดิมเริ่มบวมขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ และจำได้ว่าคุณหมอบอกไว้ด้วยว่าหากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา เนื้อที่บวมขึ้นมาอีกนี้อาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ในอนาคต ทำให้ “คุณสุพิศ” พยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมจากทางอินเทอร์เน็ตเพื่อหาทางเลือกในวิธีการรักษาและพบว่าที่ “ศูนย์ศัลยกรรมส่องกล้อง โรงพยาบาลลานนา” มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งมีเทคนิคในการ “รักษาโรคไทรอยด์ด้วยการผ่าตัดโดยใช้เทคนิคการส่องกล้อง” จึงได้ติดต่อขอรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมและหลังจากได้ทราบถึงข้อดีว่าเทคนิคดังกล่าวจะช่วยให้ปราศจาก “รอยแผลเป็น” ซึ่งเจ้าตัวไม่พึงประสงค์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงได้ขอนัดคุณหมอเพื่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว


หากปล่อยไว้ไม่รักษา โรคอาจลุกลามเกินคาด!!

อันที่จริงแล้ว ต่อมไทรอยด์” เป็นอวัยวะที่อยู่ตรงบริเวณคอและเป็นต่อมไร้ท่อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนซึ่งมีผลต่อการทำงานในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระบบไขมันในเลือด หรือระบบย่อยอาหาร และการทำงานของกล้ามเนื้อ ตลอดถึงการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย  เพราะฉะนั้นเมื่อใครมีภาวะไทรอยด์ผิดปกติหรือเป็นพิษเกิดขึ้น มันก็จะส่งสัญญาณออกมาทำให้ปรากฏอาการหลายอย่าง ดังที่ “คุณสุพิศ” เจอมาแล้ว ซึ่งเข้าข่ายเรียกว่าเป็นผลจากการมี “ฮอโมนไทรอยด์เกิน” หรือ ‘Hyper Thyroid’ ซึ่งเป็นภาวะที่ฮอร์โมนหลั่งออกมามากเกินจำเป็น จึงส่งผลให้เกิดอาการหัวใจเต้นแรง ใจสั่น เหนื่อยง่าย มีเหงื่อออกมาก อารมณ์ก็ค่อนข้างแปรปรวนบ่อย โดยยังมีอาการแปลก ๆ อีกหลายอย่าง และควรต้องรีบปรึกษากับคุณหมอผู้ชำนาญเฉพาะทางเพื่อให้ได้รับการบำบัดรักษาโดยไม่ปล่อยทิ้งไว้เพราะตัวโรคอาจพัฒนาไปถึงขั้น “มะเร็งต่อมไทรอยด์” ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้มากกว่าครึ่งของผู้ป่วยเป็นเพราะ “ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน” รวมทั้ง “ความเครียด” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยสามารถควบคุมได้ ส่วนต้นตอที่มาจาก “พันธุกรรม” กับ
“ไวรัส”
จะทำให้ผู้ป่วยหมดโอกาสควบคุมบังคับได้ 

สำหรับการรักษาภาวะ “ไทรอยด์เป็นพิษ” ในกรณีของ “คุณสุพิศ” ซึ่งเป็นสุภาพสตรีที่ยังรักสวย รักงามและไม่ต้องการให้มีแผลเป็นแนวยาวอยู่กลางคอ จึงได้ตัดสินใจให้ “นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์...แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการส่องกล้อง” ประจำ “โรงพยาบาลลานนา” นำ “เทคโนโลยีการรักษาด้วยการส่องกล้องผ่านช่องปากแบบไร้แผลเป็น” หรือ ‘Transoral Endoscopic Thyroidectomy’ มารักษา ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาได้ทั้งโรคไทรอยด์, คอพอก รวมทั้งถุงซีสต์น้ำที่ต่อมไทรอยด์ โดยคุณหมอได้อธิบายถึงความแตกต่างและข้อดีในการรักษาด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้องนี้ผ่านทางช่องปากของผู้ป่วยด้วยการเปิดรูเล็กประมาณ 1-2 ซ.ม. สำหรับสอดอุปกรณ์กล้องขนาดจิ๋วและเครื่องมือผ่าตัดพิเศษโดยเลาะไปใต้ผิวหนังลงไปถึงบริเวณต่อมไทรอยด์เพื่อตัดถุงน้ำที่บริเวณต่อมไทรอยด์ที่มีปัญหาออก ซึ่งวิธีการเปิดแผลภายในช่องปากนี้จะช่วยให้มีการสมานแผลได้ดีกว่าเปิดแผลภายนอก  ช่วยลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อได้มาก เสียเลือดน้อยกว่า ที่สำคัญคือผู้ป่วยไม่มีแผลเป็นภายนอกเลย จึงกล่าวได้ว่าเป็นจุดเด่นของการรักษาที่แตกต่างจากการผ่าตัดแบบเปิดเช่นในอดีต ซึ่งหนีไม่พ้นต้องเกิดรอยแผลเป็นบริเวณลำคอของผู้ป่วยเป็นแนวยาวราว ๆ 8–10 ซม. จึงทำให้หลังการรักษาผู้ป่วยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็นภายนอกอีกต่อไป 


ผ่าตัดแล้วไม่เห็นมีแผลเป็นอยู่ที่คอของตัวเอง!!!

ลังจากการผ่าตัดได้เสร็จสิ้นลงแล้ว “คุณสุพิศ” ได้เปิดประสบการณ์ในการมารักษา “โรคไทรอยด์” ให้ทีมงาน “อุ่นใจ..ใกล้หมอ” ทราบหลายอย่างโดยเผยว่า

“...การผ่าตัดใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นดิฉันได้นอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลลานนา 3 คืนก็กลับบ้านได้แล้วและพักรักษาตัวไม่กี่อาทิตย์ตามคำแนะนำของคุณหมอ โดยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วค่ะ ซึ่งเพื่อน ๆ และคนใกล้ตัวได้บอกดิฉันว่าไม่เหมือนไปผ่าตัดมาเลยเพราะไม่มีแผลเป็นให้เห็น ซึ่งก็ทำให้ดิฉันกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ และคิดไม่ผิดที่เลือกรักษาด้วยวิธีการนี้...”

สิ่งที่ “คุณสุพิศ” ซึ่งกลายเป็นอดีตผู้ป่วยไม่ลืมกล่าวถึงคือความซาบซึ้งแประทับใจและการแสดงความขอบคุณต่อ นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์” ที่ได้แนะนำวิธีการรักษาแบบส่องกล้องไร้แผล รวมทั้งพยาบาลที่ได้ร่วมให้การดูแลตลอดเวลาที่ได้เข้าไปรับการรักษาที่ “โรงพยาบาลลานนา”... ส่วน “หมอจอแก้ว” ก็ใคร่ขอเรียนย้ำมายังท่านผู้อ่านที่อาจเจอปัญหาเดียวกันรวมทั้งอาจมีญาติสนิทหรือมิตรสหายอยู่ในเมืองเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงให้ติดต่อขอข้อมูลรายละเอียดจจาก “โรงพยาบาลลานนา” ได้โดยตรงเพื่อการรักษาโรคไทรอยด์ด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้าทางการแพทย์นั่นเอง