โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

30 กันยายน 2562

คณะอาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต้าลี่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ศึกษาดูงาน รพ.ลานนา



เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 ณ โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ ... นพ.ดุสิต ศรีสกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลานนา นางสาวจันทนา จารุเศรณี หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์ , นางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด และ นางนฤมล วัฒนปฤดา หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล พร้อมด้วยล่ามภาษาจีน นางสาวอรพิน มานจรัส ให้การต้อนรับคณะผู้เยี่ยมชม เพื่อศึกษาดูงาน นำโดย Dr.Li Shao Bo , Bone Surgerical Doctor จาก Dali University , Yunan ,China พร้อมด้วยคณะอาจารย์หลายสาขาวิชาชีพ จากมหาวิทยาลัยต้าลี่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Dali University大理大学) ในโครงการบริการวิชาการ Dali University Clinical Medicine Teacher Training Program ของสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (UNISERV Chiang Mai University)





การศึกษาดูงานในโรงพยาบาลลานนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมอันดีงามของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งดูงานด้านการแพทย์ และการให้บริการของโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลลานนา ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีศักยภาพด้านการรักษาพยาบาลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา พร้อมยังมีล่ามภาษาจีนประจำโรงพยาบาล สะดวกในการให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยชาวจีน





27 กันยายน 2562

โรงพยาบาลลานนา ร่วมงานครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน





วันพฤหัสบดี ที่ 26 กันยายน 2562 : สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ จัดงานเลี้ยงฉลอง ความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน กับความร่วมมือระหว่างประเทศ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ และ 44 ปี ความสัมพันธ์ไทย–จีน  โดยมี นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ให้การต้อนรับตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ โดยมีตัวแทนผู้บริหาร โรงพยาบาลลานนา นางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด ร่วมงานเลี้ยงฉลองและแสดงความยินดี ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มาร่วมกล่าวแสดงความยินดี พร้อมด้วยข้าราชการ ผู้บริหาร ผู้แทนจากองค์กรหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคมนักธุรกิจไทยจีนเชียงใหม่ ตลอดจนสมาชิกสมาคม ชมรม องค์กรชาวไทยเชื้อสายจีน นักธุรกิจเชื้อสายจีนทั้งภาคเหนือ  มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทำให้บรรยากาศในงานเลี้ยงเป็นไปด้วยความอบอุ่นจากแขกผู้ร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์ล้านนาบอลรูม โรงแรมแชงกรีล่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโรงพยาบาลลานนา ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่มีผู้ป่วยชาวจีน นิยมมาใช้บริการ ด้วยมีล่ามภาษาจีน พร้อมด้วยล่ามภาษาต่างประเทศอังกฤษและญี่ปุ่น ไว้ให้บริการแก่ชาวต่างชาติที่มารับบริการ





ศปข.5 ร่วมกับ รพ.ลานนา จัดอบรม First Aids & CPR




วันที่ 26 กันยายน 2562 :  ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 5 (จังหวัดลำปาง) นำโดยนายควง ใสแจ่ม ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 5 ร่วมกับ ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา จัดการอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืน (First Aids & CPR) ในโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้มาตรการเชิงป้องกันด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อลดการประสบอันตรายของลูกจ้าง ประจำปี 2562 โดยมี นางสาวชณิชา สุนทรนันท์ หัวหน้าศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา พร้อมทีมเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้และฝึกปฏิบัติในการอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ตัวแทนจากสถานประกอบการต่างๆ ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การเคลื่อนย้ายและยกพยุง การปฏิบัติเพื่อช่วยฟื้นการทำงาน ของระบบไหลเวียนโลหิตที่หยุดกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ (CPR) โดยไม่เกิดความพิการของสมอง รวมทั้งสามารถถ่ายทอดความรู้ หลักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องได้ในสถานประกอบการ กรณีที่พบผู้ประสบเหตุอย่างฉุกเฉิน และสามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ณ ห้องช้างกระ ชั้น 2 โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด จ.เชียงใหม่






25 กันยายน 2562

ประกันสังคม จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ รพ.ลานนา มอบผ้าห่มผู้ประกันตนวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงาน



วันที่ 23 กันยายน 2562 ณ โรงพยาบาลลานนา จ.ชียงใหม่ ... สำนักงานประกันสังคม จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ โรงพยาบาลลานนา  ดำเนินโครงการงานประกันสังคมเยี่ยมผู้ประกันตน เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงาน โดยมี นางจุฑามาศ มั่นสุวรรณ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยทีมหัวหน้าแผนกของโรงพยาบาลลานนา ร่วมกันเยี่ยมเยือนผู้ประกันตนที่มาพักรักษาตัว รวมทั้งมอบผ้าห่มสำหรับผู้ประกันตน พร้อมแนะนำเรื่องสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตน

โดยโรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชน ในโครงการประกันสังคม ที่มีผู้ประกันตนทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ไว้วางใจเลือกเป็นสถานพยาบาลหลัก สูงถึง
150,000 กว่าคน แล้วในขณะนี้ ซึ่งสิทธิของผู้ประกันตนนั้น นอกจากจะได้ในเรื่องของการรักษาพยาบาล เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย ยังสามารถใช้สิทธิ์ทางการพยาบาลอื่นๆ ได้ เช่น การคลอดบุตร สิทธิทางทันตกรรม รวมทั้งการตรวจสุขภาพประจำปีได้อีกด้วย ตามสิทธิ์และเงื่อนไขตามที่ประกันสังคมได้กำหนดไว้ ซึ่งท่านสามารถดูข้อมูล และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ หรือสายตรงประกันสังคม โทร. 1506'






23 กันยายน 2562

รพ.ลานนา อบรมเทคนิคการวางแผนการทำงาน




โรงพยาบาลลานนา จัดการสัมมนาฝึกอบรมเรื่อง “เทคนิคการวางแผนการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด” ในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการบริการ โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ วิทยากรโดย คุณนริศศา  สิงห์โทราช ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและฝึกอบรม บริษัท ชัวร์ เลิร์นนิ่ง จำกัดมาบรรยายให้ความรู้ แก่เจ้าหน้าที่ พยาบาล และผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งความรู้ที่ได้จากการอบรมในครั้งนี้ จะสามารถนำมาปรับปรุง และพัฒนาในงานของบุคลากร โรงพยาบาลลานนา ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ณ ห้องประชุมอาคาร C โรงพยาบาลลานนา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562








รพ.ลานนา ร่วมกับ รพ.ขอนแก่นราม แลกเปลี่ยน ความรู้ด้านงานสื่อสาร การตลาด และประชาสัมพันธ์



เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ... โรงพยาบาลขอนแก่นราม โดยคุณศุภฤกษ์  กิตติพงษ์หรรษา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และ คุณภัณภร  ภวิจิตรกุล ผู้จัดการแผนกมีเดียโปรดักชั่น และเจ้าหน้าที่ผลิตสื่อ รพ.ขอนแก่นราม ให้การต้อนรับคุณจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด โรงพยาบาลลานนา ในโอกาสที่ได้มาศึกษาดูงาน และแลกเปลี่ยนความรู้ด้านงานสื่อสารประชาสัมพันธ์ และงานด้านมีเดียของ โรงพยาบาลขอนแก่นราม เพื่อเพิ่มศักยภาพ และพัฒนาการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ในกลุ่มของเครือข่ายโรงพยาบาลรามคำแหง








19 กันยายน 2562

สสค.เชียงใหม่ ร่วมกับ รพ.ลานนา จัดอบรม First Aids & CPR




สสค.เชียงใหม่ นำโดยนายธรรศณัฏฐ์ นุชแสงพลี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่  ร่วมกับ โรงพยาบาลลานนา จัดการอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืน (First Aids & CPR) ในโครงการรณรงค์สร้างการรับรู้มาตรการเชิงป้องกันด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อลดการประสบอันตรายของลูกจ้าง โดยมีนางชณิชา สุนทรนันท์ หัวหน้าศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลลานนา พร้อมทีมเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้และฝึกปฏิบัติในการอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ตัวแทนจากสถานประกอบการต่างๆ ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การเคลื่อนย้ายและยกพยุง  การปฏิบัติเพื่อช่วยฟื้นการทำงาน ของระบบไหลเวียนโลหิตที่หยุดกะทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ (CPR) โดยไม่เกิดความพิการของสมอง รวมทั้งสามารถถ่ายทอดความรู้ หลักวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องได้ในสถานประกอบการ กรณีที่พบผู้ประสบเหตุอย่างฉุกเฉิน และสามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ณ ห้องอิมพีเรียลบอลรูม ชั้น 2 โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562



17 กันยายน 2562

“นิ่วในถุงน้ำดี” ทำพิษต้องผ่าตัด ... รพ.ลานนา.ใช้เทคโนโลยีฯ ผ่าส่องกล้องแผลเดียว ตัดถุงน้ำดีพร้อมไส้ติ่ง ได้ในคราวเดียวกัน



ผู้ป่วยชาวเหนือวัย 63 รู้ฤทธิ์แล้ว...
อีกโรคที่ “อุ่นใจ..ใกล้หมอ” นำมาฝากในวันนี้คือ “นิ่วในถุงน้ำดี” ซึ่ง “หมอจอแก้ว” อยากให้ท่านผู้อ่านเกิดความตระหนักทั่วกันโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นท่านผู้อ่านที่มีถิ่นที่อยู่ที่ภาคเหนือ หรือภาคไหนก็น่าจะมีข้อมูลติดตัวไว้ด้วยจะได้ช่วยลดความเสี่ยงกับการที่ต้องเผชิญกับฤทธิ์เดชของมันเมื่อ “ก้อนนิ่ว” ที่เกิดขึ้นในตัวได้เพิ่มขนาดขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ทำให้เกิดการอักเสบ และส่งสัญญาณแสดงอาการผิดปกติให้ผู้ป่วยไม่อาจอยู่นิ่งเฉยโดยไม่หาทางบำบัดรักษา เพราะหากปล่อยไว้มันยังเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งถุงน้ำดีได้อีกด้วย ซึ่งวิธีรักษาเมื่อเลยระยะที่อาศัยยาอย่างเดียวไม่อาจ “เอาอยู่” แล้วก็คือ “การผ่าตัด” กำจัดออกไปให้พ้นตัว ดังที่ “คุณณภฎฬ ชูโต ศิริรณรงค์” วัย 63 ปี อดีตแพทย์เมืองลุงแซม ได้เจอประสบการณ์ด้วยตนเองมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ โดยอดีตผู้ป่วยรายนี้ได้เล่าว่า

“...เรารู้ตัวอยู่แล้วว่ามีอาการผิดปกติในร่างกาย โดยมักจะปวดท้อง อาหารไม่ย่อย อาเจียนสลับกันมาร่วมปีแล้วโดยบางครั้งต้องตื่นขึ้นมาอาเจียนตอนตี 5 โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อทนไม่ไหวก็ไปพบแพทย์และได้เข้ารับการตรวจด้วยอัลตร้าซาวน์จึงพบว่าเรามีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีถึง 2 เม็ดขนาดใหญ่ราว 1 ซ.ม. ซึ่งคุณหมอบอกว่าต้องผ่าตัดกำจัดออก...”


ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วนั้น “คุณณภฎฬ”  ลำดับให้ฟังว่า “ในสมัยเด็กเคยอาศัยอยู่ในชุมชนย่านชานเมืองที่กรุงเทพฯ มาก่อน ซึ่งในสมัยก่อนนั้น แถวๆ บ้านก็ยังไม่มีน้ำประปาเข้าถึงมากนัก ทำให้ต้องดื่มน้ำที่ต้มสุกเอง หรือไม่ก็น้ำทั่วๆ ไป ซึ่งอาจไม่สะอาดพอ จึงน่าจะเกิดตะกอนสะสมอยู่ในตัวมาหลายปี จนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นนิ่วในถุงน้ำดีในที่สุด และในปัจจุบันได้มาเปิดร้านอาหาร “โอ๊คทรี” อยู่ที่เชียงใหม่ แล้วมี “เบาหวาน” เป็นโรคประจำตัวด้วย ก็อาจช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดปัญหายิ่งขึ้น และเพื่อป้องกันภาวะต่าง ๆ ที่อาจเกิดตามมา ทำให้ “คุณณภฎฬ”  ไปขอพบและปรึกษาหาทางรักษาโรคกับ “นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์” หรือ “หมอเดี่ยว” ซึ่งเป็น “ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่องกล้อง” ประจำ “โรงพยาบาลลานนา” ที่เป็นผู้รู้จักคุ้นเคยกันอยู่ก่อนแล้วโดยได้เข้ารับการผ่าตัดในเวลาต่อมา

วัยเกิน 40ปี ควรตระหนักโดยเฉพาะสตรี !!  ..

ก่อนที่ “หมอจอแก้ว” จะสาธยายถึงรายละเอียดของการผ่าตัดก็ต้องขอเวลานอกเพื่อเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ “โรคนิ่วในถุงน้ำดี” ตามที่ “คุณหมอราชันย์พัทธ์” ได้อธิบายไว้โดยสรุปว่าในห้องตรวจศัลยกรรมมักเจอผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องฉุกเฉินเข้ามาพบแพทย์ และบ่อยครั้งก็พบว่าปัญหาเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากโรคกระเพาะหรือระบบทางเดินอาหาร แต่สาเหตุมาจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี  ซึ่งมักพบในผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปและมักพบในผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจอในผู้ชายหรอกนะเพราะโรคนี้ไม่ได้มีปัจจัยเพียงแค่เรื่องของอายุและเพศเท่านั้น หากแต่ยังมีปัจจัยสำคัญอีกหลายอย่าง เช่น การทานอาหาร คนอ้วน คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ธาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้เช่นกัน...อย่างไรก็ตาม หากตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีจนทำให้เกิดอาการ หนทางสุดท้ายในการรักษาจะหนีไม่พ้นที่ต้องทำการผ่าตัด  เพื่อให้สามารถจบปัญหา “นิ่วในถุงน้ำดี” อย่างลงตัว เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดปัญหาถุงน้ำดีอักเสบ ซึ่งสถิติผู้ป่วยมีประมาณ 3 เปอร์เซ็นต่อปี แต่ที่สำคัญคือความเสี่ยงต่อการเกิด “มะเร็งถุงน้ำดีจากการอักเสบเรื้อรัง” ที่จะตามมา

ใช้เทคโนฯ ผ่าตัดแบบส่องกล้องแผลเดียว
ราวนี้มาติดตามกันครับว่า “คุณหมอราชันย์พัทธ์”  กับผู้ป่วยคือ“คุณณภฎฬ”  ได้เห็นพ้องต้องกันอย่างไรก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยฝ่ายผู้ป่วยมีความเห็นว่า

“...เมื่อตำแหน่งของถุงน้ำดี และไส้ติ่งอยู่ในท้องเหมือนกัน ไหน ๆ ก็ได้ผ่าตัดแล้ว ผมจึงร้องขอให้คุณหมอช่วยผ่าตัดไส้ติ่งออกไปพร้อม ๆ กันเพราะเราไม่รู้หรอกว่าไส้ติ่งที่มีอยู่นั้นจะกำเริบมาเมื่อไหร่ ถือเป็นโอกาสดีทีเดียว ที่ได้ผ่าตัดครั้งเดียว แต่รักษาได้ถึง 2 ภาวะด้วยกัน...”

เมื่อผู้ป่วยแสดงความจำนงชัดเจนอย่างนั้นแล้วคุณหมอก็รับไปดำเนินการโดยอธิบายถึงเทคนิคการรักษาที่นำมาใช้ที่ รพ.ลานนา ซึ่งจะให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยที่เข้ารับผ่าตัดเพื่อเอาถุงน้ำดีออกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา และตามที่ผู้ป่วยขอให้ผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกนั้นได้พิจารณาว่าเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน เป็นผลให้คุณหมอเลือกใช้เทคโนโลยีการรักษาแบบใหม่คือ “การผ่าตัดแบบส่องกล้องแผลเดียว” ซึ่งต่างกับการส่องกล้องแบบเดิมที่ต้องเจาะรูบริเวณหน้าท้อง 3-4 แผล โดยการผ่าแบบใหม่จะลดจำนวนแผลผ่าตัดลงเหลือแผลเดียวที่บริเวณสะดือ เนื่องจากมีความโค้งและยืดหยุ่นได้ดี สามารถยืดเพื่อเปิดแผลให้กว้างขึ้นพอสำหรับสอดกล้องและอุปกรณ์ผ่าตัดขนาดจิ๋วผ่านเข้าไปผ่าตัดถุงน้ำดีและตัวไส้ติ่งออกได้จากแผลเดียวกัน!!!... ซึ่งหลังจากการผ่าตัดผ่านพ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฝ่ายผู้ป่วยเผยว่า


“...ผมลืมตาขึ้นมาอย่างสบายหลังจากผ่าตัดเสร็จไม่นาน ไม่ปวดแผลมาก ไม่มีไข้ มีแค่อาการจี๊ด ๆ ที่ท้องบ้างแต่ลุกจากเตียงมาเดินเอง เข้าห้องน้ำเองได้เลย นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลคืนเดียวก็กลับบ้านและใช้ชีวิตทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แค่เลี่ยงไม่ยกของหนักเท่านั้นเอง ส่วนที่แผลผ่าตัดก็แทบจะมองไม่เห็นเพราะมันซ่อนอยู่ในสะดือหากไม่จ้องดูก็แทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ผลการรักษาดีมากครับ ตอนนี้ผมสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขแล้วครับ...”

 อดีตผู้ป่วยกล่าวอย่างมีความสุข...ส่วน “หมอจอแก้ว” ขอกล่าวด้วยความยินดีกับความสำเร็จของ โรงพยาบาลลานนา ในการเติมความสุขให้กับเหยื่อของโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างลงตัวครับ

10 กันยายน 2562

มัจจุราชเงียบซ่อนแอบ...EKG ตรวจไม่พบ!! เจอได้เมื่อ รพ.ลานนาให้ ผป.เดินสายพาน



แม้จะรักษ์สุขภาพจริงจัง...ก็อย่าวางใจ
มีเรื่องจริงจากประสบการณ์ของผู้ป่วยชายชาวเชียงใหม่วัย 65 ซึ่งมีโรคประจำตัวคือ “เบาหวาน” กับ “ความดันโลหิตสูง” เป็นทุนเดิมมาหลายปีแต่ด้วยความที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจประกอบกับการเป็นผู้ที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้วทำให้ “คุณชำนาญ เจียมหาทรัพย์” จัดเวลาทำกิจวัตรประจำวันด้วยการวิ่งรอบหมู่บ้านที่อาศัยอยู่เป็นระยะทางประมาณ 4 กม.เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อนได้เกิดปัญหามลภาวะฝุ่นควัน PM 2.5 ที่ จ.เชียงใหม่ดังได้ทราบกันแล้ว จึงเป็นผลให้ “คุณชำนาญ” จำเป็นต้องพักการประกอบกิจวัตรประจำวันที่ชื่นชอบนานถึง 2 เดือนจนกระทั่งปัญหาที่ว่าได้คลี่คลายแล้วจึงหวนกลับมาวิ่งเพื่อสุขภาพของตนเองต่อ...แต่คราวนี้มีบางอย่างไม่เหมือนเดิมจนรู้สึกได้โดยเจ้าตัวเล่าว่า
“...หลังจากออกวิ่งได้ไม่นานก็รู้สึกผิดปกติเพราะได้เกิดอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยเร็ว หายใจได้ไม่เต็มที่ และที่สำคัญคือจะเจ็บมากขึ้นเมื่อยิ่งออกแรงวิ่ง ผมจึงหยุดพักทุกกิจกรรมและไปปรึกษาคุณหมอเพราะอยากค้นหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ได้ก่อนครับ...”
“หมอจอแก้ว” เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะเดาออกว่า “คุณชำนาญ” เจออะไรเข้าให้แล้ว...ซึ่งเป็นการเดาที่ไม่ผิดหรอกครับเพียงแต่ว่ามันไม่ง่ายที่จะไปตรวจแล้วพบได้ทันอกทันใจอย่างที่ใคร ๆ คาดคิด...ทำให้ทั้งผู้ป่วยและคุณหมอโรคหัวใจประจำ “โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่”  ต้องมีภาระในการออกแรงเพิ่มขึ้นเพราะถึงอย่างไรก็ต้องค้นหา “เจ้าตัวการ” จนกว่าจะจับได้คามือ...

มีฤทธิ์ร้ายกาจแล้วยังเล่นซ่อนหาเก่งอีก
รกเริ่มของกระบวนการตรวจหาอาการผิดปกติให้ “คุณชำนาญ” นั้น นพ.รัตนชัย ชาญชัย แพทย์ประจำศูนย์บอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลลานนา ในฐานะเจ้าของไข้ได้ซักประวัติเบื้องต้นตั้งแต่ในแง่ของสุขภาพ ไล่เรียงไปจนถึงอาการที่เกิดขึ้น ลักษณะของการเจ็บหน้าอก ซึ่งเมื่อฟังแล้วคุณหมอตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจจึงให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจเช็คด้วย “การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ” หรือ  EKG’ เพื่อให้ทราบถึงคลื่นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อหัวใจที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความผิดปกติของหัวใจได้

แต่ผลที่ปรากฏคือ...คลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยรายนี้มีลักษณะปกติ!!!

แต่ด้วยประสบการณ์ของคุณหมอจึงทราบดีว่าถึงแม้ว่าผล EKG จะปกติ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่าจะไม่เป็น “โรคหัวใจ”... จึงได้แนะนำให้ “คุณชำนาญ”  ได้เข้ารับ “การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย” ที่คุณหมอเรียกอย่างย่อว่า EST (Exercise Stress Test ) ซึ่งเป็นการให้ออกกำลังกายโดยการเดินบนสายพานตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ และปรากฏว่าขณะที่ออกแรงเดินบนสายพานเพื่อทดสอบสมรรถภาพหัวใจผ่านไปได้ประมาณ 3 นาที “คุณชำนาญ” ก็รู้สึกแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่ออกทำให้จำเป็นต้องยุติการทดสอบไว้เพียงเท่านั้นโดยคุณหมอได้เห็นข้อมูลความผิดปกติจากกราฟแสดงผลซึ่งอธิบายได้ว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะการออกกำลังกายจะเป็นผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและต้องการได้เลือดมาเลี้ยงมากขึ้นด้วย แต่หากมีหลอดเลือดหัวใจเส้นใดตีบจะเท่ากับปิดกั้นกระแสการไหลเวียนของเลือดมิให้เข้าไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้เพียงพอ จึงก่อให้เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกขณะที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้เห็นในขณะที่เดินทดสอบ และเมื่อได้ประจักษ์ข้อมูลต่าง ๆ อย่างนี้แล้ว “คุณหมอรัตนชัย” ก็สามารถวินิจฉัยได้เลยว่าผู้ป่วยรายนี้มีภาวะของ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ” ซึ่งขั้นตอนที่ช่วยยืนยันได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือ “การฉีดสีเข้าสู่หลอดเลือดหัวใจ” ซึ่งจะช่วยบอกถึงตำแหน่งเส้นเลือดที่ตีบตันอันจะช่วยให้คุณหมอทำการใส่ขดลวดและบอลลูนขยายหลอดเลือดรักษาอาการของ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ” ให้ผู้ป่วยโดยไม่ต้องใช้วิธี “ผ่าตัด” 
ด้วยศักยภาพและความพร้อมครบครันดังกล่าวได้ส่งผลให้ “ศูนย์บอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ” รพ.ลานนา เชียงใหม่ ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการ “รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยทำการขยายด้วยบอลลูนที่ไม่ต้องผ่าตัด” ดังที่ได้รักษาให้กับ “คุณชำนาญ” เป็นที่เรียบร้อยเมื่อไม่นานนี้เอง...และเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รับความกระจ่างเพิ่มขึ้น “คุณหมอรัตนชัย” ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจว่า “การทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ” ทำได้โดยการ ใส่ท่อขนาดเล็กเข้าทางหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบ หรือข้อมือขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วย จากนั้นจะสวนท่อเข้าไปตามหลอดเลือดจนถึงหลอดเลือดหัวใจ แล้วใส่สายขนาดเล็กผ่านท่อไปยังบริเวณหลอดเลือดหัวใจที่ตีบก่อนใส่บอลลูนเข้าไปตามสายให้ไปสู่จุดที่หลอดเลือดหัวใจตีบ จากนั้นจึงขยายบอลลูน เพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจและใส่ขดลวดผ่านสายตามเข้าไปค้ำบริเวณที่ขยายบอลลูน เพื่อไม่ให้หลอดเลือดหัวใจบริเวณนั้นกลับมาตีบซ้ำอีก และทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการทำบอลลูนหัวใจขยายหลอดเลือดหัวใจนั้น จำเป็นจะต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะทาง และความชำนาญของแพทย์โรคหัวใจที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเชี่ยวชาญแล้ว


เอาละ ไมว่าจะอย่างไรก็ตามแต่มันก็ทำให้เกิดอาการ “ใจหายใจคว่ำ” ได้ไม่น้อยทีเดียวสำหรับใครที่เจอฤทธิ์ของ “โรคหัวใจขาดเลือด” ที่เรียกว่าเป็นมัจจุราชเงียบจอมอำมหิตซึ่งที่คร่าชีวิตผู้คนมาแล้วอย่างมากมาย และเป็นปัญหาสำคัญของกลุ่มผู้สูงอายุ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเจอความผิดปกติจากการตรวจสุขภาพหัวใจ ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่พบปัญหาตั้งแต่ต้น และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แต่ก็มีอีกหลายคนที่โชคร้าย ไม่เคยตรวจสุขภาพหัวใจ หรือแม้แต่สังเกตอาการของตนเอง จนกระทั่งเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และนำไปสู่สาเหตุของการเสียชีวิตได้ในที่สุด!!!

“อุ่นใจ..ใกล้หมอ” จึงขอฝากเตือนมายังท่านผู้อ่านชาวเหนือให้เพิ่มความระวังให้มากและขอกระซิบส่งท้ายด้วยว่า...อย่าไปล้อเล่นกับ “มัจจุราชเงียบ” โดยเด็ดขาด!!!

ต้อนรับแพทย์ใหม่ โรงพยาบาลลานนา



นพ.ดุสิต  ศรีสกุล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลลานนา ได้มอบช่อดอกไม้ให้กับ ทพญ.วริศรา รัตนะสุภา ทันตแพทย์  โรงพยาบาลลานนา  เนื่องในโอกาสต้อนรับแพทย์ใหม่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการให้บริการทางการแพทย์ของ รพ.ลานนา ให้เพิ่มมากขึ้น ออกตรวจทุกวัน อังคาร เวลา 13.00 - 20.00 น. และวัน พฤหัสบดี , ศุกร์ , เสาร์ เวลา 08.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์ทันตกรรม โรงพยาบาลลานนา โทร.052-134-777