โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

5 กุมภาพันธ์ 2563

เทคโนโลยีก้าวหน้ารักษา “ไส้เลื่อน”...ไร้แผลใหญ่!! ทางเลือกเพิ่มที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดฯ” รพ.ลานนา ... อุ่นใจ...ใกล้หมอ นสพ.เดลินิวส์ (5 ก.พ. 63)

 
เทคโนโลยีก้าวหน้ารักษา “ไส้เลื่อน”...ไร้แผลใหญ่!!

ทางเลือกเพิ่มที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดฯ” รพ.ลานนา
ต้องเผชิญปัญหาโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่...

มีคุณผู้ชายชาวเชียงใหม่เจ้าของกิจการร้านอาหารแห่งหนึ่งได้เผยให้ทีมงาน "อุ่นใจ...ใกล้หมอ" รับฟังว่าได้ใช้เวลาตั้งแต่ร้านเปิดในช่วงกลางวันไปยันดึกโดยมีกิจวัตรประจำวันที่ต้องเดินไป เดินมา ไปตลาด ซื้อของแล้วก็ต้องยกของบ้าง แบกของบ้าง จนเมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวเกิดความรู้สึกได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างเริ่มจากมีอาการหน่วง ๆ บริเวณหัวหน่าวในช่วงแรกก่อน จากนั้นก็เริ่มสังเกตเห็นก้อนนูนที่บริเวณขาหนีบของตัวเอง โดยเฉพาะเวลายืน หรือยกของ แต่ก้อนนี้จะยุบเข้ายุบออกได้เองจึงไม่คิดว่าจะเป็นอะไร แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือนเจ้าก้อนที่เห็นได้เพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซ้ำยังมีอาการปวดหน่วงร่วมด้วยอีก ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันชักจะลำบากและไม่คล่องแคล่วเหมือนเดิมเพราะเริ่มมีความงกังวลกับอาการมากขึ้นทุกขณะ และเมื่อไม่อาจฝืนทนต่อไปจึงรีบดิ่งไปขอรับการตรวจรักษาที่ รพ.ลานนาและทราบต่อมาว่าอาการที่เผชิญอยู่หลายเดือนนั้นเป็นเพราะ "ไส้เลื่อน" ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือโรคเก่าแก่ที่จะมาเป็นตัวบ่อนทำลายความสุขให้แก่ฝ่ายชายมากกว่าจะไปเล่นงานฝ่ายหญิง และผู้ที่เจอปัญหานี้ไม่ว่าจะเป็นมีวัยหนุ่มหรือสูงวัยขึ้นไปอีกก็ล้วนหนีไม่พ้นต้องเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยการผ่าตัดแทบจะร้อยละร้อย...แต่หากลองไปถามไถ่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยถูกโรคนี้เล่นงานมาในอดีตเมื่อหลายปีก่อนนั้นก็มักพูดให้ฟังตรงกันว่าต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น ยิ่งเมื่อได้เห็นรอยแผลเป็นที่ท้องน้อยของอดีตผู้ป่วยแล้วก็ทำให้ใจคอไม่ดีเหมือนกันเพราะเมื่อนึกถึงภาพของตัวเองตอนที่ไปผ่าตัดแล้วมีแผลเป็นแนวยาวอย่างที่เห็นก็มโนได้เองเลยว่าคงต้องได้พักยาวหลังการรักษาเป็นแน่!!!

แต่เมื่อไม่อาจพกความกังวลไว้กับตัวอีกต่อไป คุณจารึก รุ่นไสว” ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เชียงใหม่รายนี้จึงได้บอกเล่าอาการให้ “นพ.ชนะพงศ์  จิรพรเจริญ”... แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลลานนา ได้ทราบถึงความทุกข์ที่เผชิญมาเกือบ 2 เดือนพร้อมกับรับการตรวจจากคุณหมอและได้ทราบเลยว่ากำลังเจอฤทธิ์ของ “โรคไส้เลื่อน” ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการกินยา อีกทั้งก้อนที่ปูดออกมาจากหน้าท้องก็จะไม่อาจดันให้คืนกลับเข้าที่ดังเดิมได้... “การผ่าตัด” เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาให้หายได้...เจ้าตัวจึงได้ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดตามคำแนะนำของคุณหมอเพราะไม่ประสงค์ที่จะทนอยู่ในสภาพเช่นนั้นอีกต่อไป...แต่หลังจากผ่าตัดแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น “หมอจอแก้ว” ขออุบไว้ก่อนก็แล้วกัน


เทคโนฯ ผ่าตัดส่องกล้อง...เป็นอีก 1 วิธีรักษา!!!
อพาท่านผู้อ่านโดยเฉพาะท่านชายมาติดตามข้อมูลจาก “คุณหมอชนะพงศ์” ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“...โรคนี้พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผนังหน้าท้องบางจุดมีความอ่อนแอ และสะสมเป็นมากตามอายุที่มากขึ้น ลักษณะอาการคือ ลำไส้มีการไหลเลื่อน หรือทะลักเข้าไปในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง เช่น บริเวณขาหนีบ หรือถุงอัณฑะ เป็นต้น ทำให้เป็นก้อนตุง โดยมักมีอาการแสดงเมื่อมีแรงดันในช่องท้องสูง เช่น เวลาไอ จาม เบ่งถ่าย ยกของหนัก เป็นต้น...โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการกินยา เพราะเหตุนี้ในกรณีที่ไม่สามารถดันไส้เลื่อนให้กลับเข้าสู่ที่เดิมได้หลังจากที่ไหลออกมาจนเห็นเป็นก้อนนูน แล้วยังมีโอกาสขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเป็นอันตรายกลายเป็นโรคลำไส้อุดตัน หรือลำไส้เน่าเพราะขาดเลือดไปเลี้ยง การรักษาโรคนี้ให้หายจำเป็นจะต้องได้รับการักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้ หรืออวัยวะอื่นที่ล้นหรือเลื่อนออกมาให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม และเย็บปิดรู หรือเสริมความแข็งแรงให้กับผนังหน้าท้องที่เป็นจุดอ่อนให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออก...”

จากนั้น “คุณหมอชนะพงศ์” ได้สรุปให้ทราบถึงการผ่าตัดรักษาในปัจจุบันนี้มี 2 แบบหลัก ๆ วิธีแรกคือ “การผ่าตัดแบบเปิด”... ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดเปิดแผลยาวประมาณ 8 – 10 ซม. เพื่อเข้าไปผูกตัดถุงที่ยื่นออกมา และเย็บซ่อมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหา แต่วิธีนี้เนื้อเยื่อที่ถูกเย็บติดตรึงกัน ผู้ป่วยมักมีความเจ็บปวดหลังผ่าตัด เสียเลือดมาก พักฟื้นในโรงพยาบาล 3-5 วัน กลับไปทำงานเดินตัวตรงตามปกติได้ช้า และมีแผลเป็นรอยยาวติดตัวไปตลอด!!!


ส่วนอีกวิธีที่มีการนำมาใช้กันตามโรงพยาบาลบางแห่งรวมทั้งที่ “รพ.ลานนา” คือ “เทคโนโลยีการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบใช้กล้องส่อง” ซึ่งเป็นการเจาะรูขนาดเล็กที่บริเวณผนังหน้าท้อง ประมาณ 3 รู เพื่อเป็นช่องทางสำหรับสอดใส่กล้องขนาดเล็ก และอุปกรณ์ผ่าตัดพิเศษเข้าไปซ่อมผนังหน้าท้องด้านในให้แข็งแรง โดยจะมีการใช้แผ่นใยสังเคราะห์ปูคลุมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหาเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก แต่ที่ผู้ป่วยชื่นชอบอีกอย่างเห็นจะเป็นกรณีที่...ขนาดของแผลผ่าตัดที่ค่อนข้างเล็กจึงทำให้เจ็บน้อย สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเดิม และไม่มีแผลเป็นแนวยาวที่หน้าท้อง...

ทัศนคติเปลี่ยนไปหลังการรักษา..

ทีนี้มาดูกันว่าหลังจากที่ คุณจารึก” ได้ผ่านประสบการณ์การผ่าตัดไส้เลื่อนที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดแผลเล็กไส้เลื่อน” ซึ่งตั้งอยู่ภายใน “โรงพยาบาลลานนา” แล้วเจ้าตัวมีความรู้สึกอย่างไร โดยเจ้าตัวพูดให้ฟังว่า...
“ผมตั้งใจรักษาตั้งแต่แรกแล้วครับ ซึ่งเมื่อได้รับคำแนะนำจากคุณหมอก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดทันที และคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่มารักษาตัวที่นี่ เพราะหากปล่อยอาการไว้ต่อไป ผมคงต้องเสี่ยงกับโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจตามมา ทำให้รักษายากขึ้นอีก... ตอนนี้รู้เลยว่าเทคโนโลยีรักษาโรคไส้เลื่อนด้วยการส่องกล้องแบบนี้ ไม่น่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินมาก่อนเลย  ผลการรักษาก็ดีมาก รู้สึกประทับใจมากกับเจ้าหน้าที่ พยาบาล และขอขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ ที่ได้แนะนำถึงการรักษาไส้เลื่อนด้วยเทคโนโลยีการส่องกล้อง ทำให้ผมไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ และนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ที่สำคัญก็ไม่มีแผลใหญ่ เหมือนอย่างที่กังวลเลยครับ”
“หมอจอแก้ว” อดไม่ได้ที่จะต้องขอแสดงความยินดีกับชาวเชียงใหม่รวมทั้งคุณผู้ชายชาวเหนือในจังหวัดใกล้เคียงที่อาจเจอปัญหา “โรคไส้เลื่อน” แบบเดียวกับ “คุณจารึก” แต่อย่างน้อยก้มีที่พึ่งให้เป็นทางเลือกจากความก้าวหน้าของ “เทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยการใช้กล้องส่อง” เหมือนดั่งมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยให้ผู้ป่วยสามารถก้าวข้ามความทุกข์ระทมจากอาการของโรคได้สะดวกและง่ายกว่าเดิมดังที่ “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” นำเสนอมานี้...แต่หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็ขอเชิญติดต่อโดยตรงที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดแผลเล็กไส้เลื่อน โรงพยาบาลลานนา”... โทร.052-134-777...
ปิดท้ายด้วยข่าวดีสำหรับท่านที่ มีสิทธิ์เบิกตรง เป็นข้าราชการ รวมทั้งผู้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ก็สามารถใช้สิทธิ์การรักษาไส้เลื่อนด้วยการส่องกล้องที่นี่ได้เช่นกันครับ