เทคโนโลยีก้าวหน้ารักษา
“ไส้เลื่อน”...ไร้แผลใหญ่!!
ทางเลือกเพิ่มที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดฯ” รพ.ลานนา
ต้องเผชิญปัญหาโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่...
มีคุณผู้ชายชาวเชียงใหม่เจ้าของกิจการร้านอาหารแห่งหนึ่งได้เผยให้ทีมงาน
"อุ่นใจ...ใกล้หมอ" รับฟังว่าได้ใช้เวลาตั้งแต่ร้านเปิดในช่วงกลางวันไปยันดึกโดยมีกิจวัตรประจำวันที่ต้องเดินไป เดินมา ไปตลาด ซื้อของแล้วก็ต้องยกของบ้าง
แบกของบ้าง จนเมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวเกิดความรู้สึกได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างเริ่มจากมีอาการหน่วง
ๆ บริเวณหัวหน่าวในช่วงแรกก่อน จากนั้นก็เริ่มสังเกตเห็นก้อนนูนที่บริเวณขาหนีบของตัวเอง
โดยเฉพาะเวลายืน หรือยกของ แต่ก้อนนี้จะยุบเข้ายุบออกได้เองจึงไม่คิดว่าจะเป็นอะไร
แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 เดือนเจ้าก้อนที่เห็นได้เพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซ้ำยังมีอาการปวดหน่วงร่วมด้วยอีก
ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันชักจะลำบากและไม่คล่องแคล่วเหมือนเดิมเพราะเริ่มมีความงกังวลกับอาการมากขึ้นทุกขณะ
และเมื่อไม่อาจฝืนทนต่อไปจึงรีบดิ่งไปขอรับการตรวจรักษาที่ รพ.ลานนาและทราบต่อมาว่าอาการที่เผชิญอยู่หลายเดือนนั้นเป็นเพราะ
"ไส้เลื่อน" ซึ่งจริง ๆ
แล้วก็คือโรคเก่าแก่ที่จะมาเป็นตัวบ่อนทำลายความสุขให้แก่ฝ่ายชายมากกว่าจะไปเล่นงานฝ่ายหญิง
และผู้ที่เจอปัญหานี้ไม่ว่าจะเป็นมีวัยหนุ่มหรือสูงวัยขึ้นไปอีกก็ล้วนหนีไม่พ้นต้องเข้ารับการบำบัดรักษาด้วยการผ่าตัดแทบจะร้อยละร้อย...แต่หากลองไปถามไถ่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคยถูกโรคนี้เล่นงานมาในอดีตเมื่อหลายปีก่อนนั้นก็มักพูดให้ฟังตรงกันว่าต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น
ยิ่งเมื่อได้เห็นรอยแผลเป็นที่ท้องน้อยของอดีตผู้ป่วยแล้วก็ทำให้ใจคอไม่ดีเหมือนกันเพราะเมื่อนึกถึงภาพของตัวเองตอนที่ไปผ่าตัดแล้วมีแผลเป็นแนวยาวอย่างที่เห็นก็มโนได้เองเลยว่าคงต้องได้พักยาวหลังการรักษาเป็นแน่!!!
แต่เมื่อไม่อาจพกความกังวลไว้กับตัวอีกต่อไป “คุณจารึก รุ่นไสว” ผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เชียงใหม่รายนี้จึงได้บอกเล่าอาการให้
“นพ.ชนะพงศ์ จิรพรเจริญ”...
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรม โรงพยาบาลลานนา ได้ทราบถึงความทุกข์ที่เผชิญมาเกือบ
2 เดือนพร้อมกับรับการตรวจจากคุณหมอและได้ทราบเลยว่ากำลังเจอฤทธิ์ของ “โรคไส้เลื่อน”
ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการกินยา อีกทั้งก้อนที่ปูดออกมาจากหน้าท้องก็จะไม่อาจดันให้คืนกลับเข้าที่ดังเดิมได้...
“การผ่าตัด” เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาให้หายได้...เจ้าตัวจึงได้ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดตามคำแนะนำของคุณหมอเพราะไม่ประสงค์ที่จะทนอยู่ในสภาพเช่นนั้นอีกต่อไป...แต่หลังจากผ่าตัดแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น
“หมอจอแก้ว” ขออุบไว้ก่อนก็แล้วกัน
เทคโนฯ ผ่าตัดส่องกล้อง...เป็นอีก 1 วิธีรักษา!!!
ขอพาท่านผู้อ่านโดยเฉพาะท่านชายมาติดตามข้อมูลจาก
“คุณหมอชนะพงศ์” ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“...โรคนี้พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผนังหน้าท้องบางจุดมีความอ่อนแอ
และสะสมเป็นมากตามอายุที่มากขึ้น ลักษณะอาการคือ ลำไส้มีการไหลเลื่อน หรือทะลักเข้าไปในบริเวณใด
บริเวณหนึ่ง เช่น บริเวณขาหนีบ หรือถุงอัณฑะ เป็นต้น ทำให้เป็นก้อนตุง
โดยมักมีอาการแสดงเมื่อมีแรงดันในช่องท้องสูง เช่น เวลาไอ จาม เบ่งถ่าย ยกของหนัก
เป็นต้น...โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการกินยา เพราะเหตุนี้ในกรณีที่ไม่สามารถดันไส้เลื่อนให้กลับเข้าสู่ที่เดิมได้หลังจากที่ไหลออกมาจนเห็นเป็นก้อนนูน
แล้วยังมีโอกาสขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเป็นอันตรายกลายเป็นโรคลำไส้อุดตัน
หรือลำไส้เน่าเพราะขาดเลือดไปเลี้ยง การรักษาโรคนี้ให้หายจำเป็นจะต้องได้รับการักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้
หรืออวัยวะอื่นที่ล้นหรือเลื่อนออกมาให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม และเย็บปิดรู
หรือเสริมความแข็งแรงให้กับผนังหน้าท้องที่เป็นจุดอ่อนให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออก...”
จากนั้น “คุณหมอชนะพงศ์” ได้สรุปให้ทราบถึงการผ่าตัดรักษาในปัจจุบันนี้มี
2 แบบหลัก ๆ วิธีแรกคือ “การผ่าตัดแบบเปิด”... ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดเปิดแผลยาวประมาณ
8 – 10 ซม. เพื่อเข้าไปผูกตัดถุงที่ยื่นออกมา
และเย็บซ่อมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหา แต่วิธีนี้เนื้อเยื่อที่ถูกเย็บติดตรึงกัน
ผู้ป่วยมักมีความเจ็บปวดหลังผ่าตัด เสียเลือดมาก พักฟื้นในโรงพยาบาล 3-5 วัน กลับไปทำงานเดินตัวตรงตามปกติได้ช้า
และมีแผลเป็นรอยยาวติดตัวไปตลอด!!!
ส่วนอีกวิธีที่มีการนำมาใช้กันตามโรงพยาบาลบางแห่งรวมทั้งที่ “รพ.ลานนา”
คือ “เทคโนโลยีการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบใช้กล้องส่อง” ซึ่งเป็นการเจาะรูขนาดเล็กที่บริเวณผนังหน้าท้อง
ประมาณ 3 รู เพื่อเป็นช่องทางสำหรับสอดใส่กล้องขนาดเล็ก และอุปกรณ์ผ่าตัดพิเศษเข้าไปซ่อมผนังหน้าท้องด้านในให้แข็งแรง
โดยจะมีการใช้แผ่นใยสังเคราะห์ปูคลุมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหาเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก
แต่ที่ผู้ป่วยชื่นชอบอีกอย่างเห็นจะเป็นกรณีที่...ขนาดของแผลผ่าตัดที่ค่อนข้างเล็กจึงทำให้เจ็บน้อย
สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเดิม และไม่มีแผลเป็นแนวยาวที่หน้าท้อง...
ทัศนคติเปลี่ยนไปหลังการรักษา..
ทีนี้มาดูกันว่าหลังจากที่ “คุณจารึก” ได้ผ่านประสบการณ์การผ่าตัดไส้เลื่อนที่ “ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดแผลเล็กไส้เลื่อน”
ซึ่งตั้งอยู่ภายใน “โรงพยาบาลลานนา” แล้วเจ้าตัวมีความรู้สึกอย่างไร
โดยเจ้าตัวพูดให้ฟังว่า...
“ผมตั้งใจรักษาตั้งแต่แรกแล้วครับ
ซึ่งเมื่อได้รับคำแนะนำจากคุณหมอก็ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดทันที และคิดไม่ผิดจริง
ๆ ที่มารักษาตัวที่นี่ เพราะหากปล่อยอาการไว้ต่อไป ผมคงต้องเสี่ยงกับโรคแทรกซ้อนอื่น
ๆ ที่อาจตามมา ทำให้รักษายากขึ้นอีก... ตอนนี้รู้เลยว่าเทคโนโลยีรักษาโรคไส้เลื่อนด้วยการส่องกล้องแบบนี้
ไม่น่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินมาก่อนเลย ผลการรักษาก็ดีมาก
รู้สึกประทับใจมากกับเจ้าหน้าที่ พยาบาล และขอขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ
ที่ได้แนะนำถึงการรักษาไส้เลื่อนด้วยเทคโนโลยีการส่องกล้อง
ทำให้ผมไม่ต้องเจ็บตัวเยอะ และนอนโรงพยาบาลนาน ๆ ที่สำคัญก็ไม่มีแผลใหญ่
เหมือนอย่างที่กังวลเลยครับ”
“หมอจอแก้ว” อดไม่ได้ที่จะต้องขอแสดงความยินดีกับชาวเชียงใหม่รวมทั้งคุณผู้ชายชาวเหนือในจังหวัดใกล้เคียงที่อาจเจอปัญหา
“โรคไส้เลื่อน” แบบเดียวกับ “คุณจารึก”
แต่อย่างน้อยก้มีที่พึ่งให้เป็นทางเลือกจากความก้าวหน้าของ “เทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยการใช้กล้องส่อง”
เหมือนดั่งมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยให้ผู้ป่วยสามารถก้าวข้ามความทุกข์ระทมจากอาการของโรคได้สะดวกและง่ายกว่าเดิมดังที่
“อุ่นใจ...ใกล้หมอ” นำเสนอมานี้...แต่หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็ขอเชิญติดต่อโดยตรงที่
“ศูนย์ส่องกล้องผ่าตัดแผลเล็กไส้เลื่อน โรงพยาบาลลานนา”... โทร.052-134-777...
ปิดท้ายด้วยข่าวดีสำหรับท่านที่ มีสิทธิ์เบิกตรง
เป็นข้าราชการ รวมทั้งผู้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ก็สามารถใช้สิทธิ์การรักษาไส้เลื่อนด้วยการส่องกล้องที่นี่ได้เช่นกันครับ