โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

1 เมษายน 2563

หนุ่มเหนือวัย 28 นึกไม่ถึงว่าจะเจอหมอนรองกระดูกฯ ทับเส้น!! รักษาหาย-ฟื้นตัวไวหลัง รพ.ลานนาใช้เทคโนฯ ผ่าตัดส่องกล้อง


ปล่อยคาไว้มานานกว่าจะรู้ว่าฤทธิ์ “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” 



านยาก็แล้ว...ทำกายภาพก็แล้ว...เพียงแต่ทำบ้าง-ไม่ทำบ้างตามแต่จะมีเวลา ทำให้อาการปวดที่เกิดขึ้นยังคงรบกวนการใช้ชีวิตตลอดมาและยิ่งปล่อยไว้นานเข้าก็ยิ่งปวดและชาลงขาหนักขึ้นทุกขณะ จนท้ายที่สุดต้องลางานกลับมาพักที่บ้านในเชียงใหม่ อาการปวดได้รุนแรงขึ้น ถึงขนาดลุกจากที่นอนไม่ได้ด้วยตัวเองเป็นผลให้คนใกล้ตัวรีบนำส่งไปที่ “โรงพยาบาลลานนา” จึงช่วยให้ปัญหาหนักในชีวิตวัย 28 ปีได้สลายหายไปหลังจากที่ได้รับการรักษาด้วย “การผ่าตัด” และพักฟื้นอยู่ที่บ้านอีกราว 2 สัปดาห์จึงสามารถกลับไปปฏิบัติภารกิจประจำได้อย่างสบายมาจนถึงวันนี้.... นี่คือเรื่องราวที่ “คุณกุลพัทธ์ กิติทรัพย์” ได้เผยให้ทีมงาน “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” ได้รับรู้ถึงประสบการณ์ที่สร้างความทรมานให้กับเจ้าตัวชนิดที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าด้วยวัยของตัวเองที่มีตัวเลขนำหน้าอายุยังไม่ถึงเลข 3 จะต้องมาเผชิญกับความเจ็บปวดรวดร้าวที่มีเหตุจาก “หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท” ถึงกับต้องไปเข้ารับการรักษาด้วย “การผ่าตัด” ดังที่ระบุมานี้



ความกระจ่างหลังจากการตรวจ-รักษา

ากลักษณะอาการที่ผู้ป่วยรายนี้ได้เผยแก่คุณหมอเจ้าของไข้ คือ... “นพ.ภาสกร อุปโยคิน แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ ประจำศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา” ได้อธิบายถึงกรณีที่ผู้ป่วยเกิดอาการปวดเรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ หรือการรักษาในเบื้องต้นไม่ดีขึ้น การตรวจวินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ส่งผลให้ “คุณกุลพัทธ์ ได้เข้ารับการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI  ที่สามารถแสดงภาพชัดเจนแบบ 3 มิติซึ่งช่วยให้เห็นถึงเส้นประสาทไขสันหลัง เส้นประสาทในร่างกาย หมอนรองกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเลือด ไขสันหลัง โรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่กระดูกสันหลังของผู้ป่วยได้อย่างละเอียด ซึ่งจากกรณีของผู้ป่วยรายนี้คุณหมอพบว่าเกิดจากภาวะ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทสันหลัง ถึง 2 ข้อด้วยกันอันเป็นข้อยืนยันถึงสาเหตุที่ชัดเจน อันเป็นผลให้ “คุณหมอภาสกร” ผู้ทำการตรวจ สามารถวางแผนการรักษาโรคต่อไป ซึ่งผลสุดท้ายหลังจากที่การรักษาขั้นต้นไม่ดีขึ้นก็จำเป็นที่คุณหมอต้องแนะนำผู้ป่วยให้รับรักษาโดยการผ่าตัดเอาส่วนที่เกิดการกดทับเส้นประสาทออกและเป็นทางเลือกที่จะทำให้ผู้ป่วยพ้นจากความปวดสุดทรมานที่เกิดขึ้น แต่ด้วยความที่ผู้ป่วยรายนี้เผยกับคุณหมอถึงความจำเป็นเรื่องหน้าที่การงานและความรับผิดชอบที่เจ้าตัวไม่อยากนอนพักอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานานหลายวัน หรือรวมถึงการที่ต้องหยุดงานเป็นเดือน คุณหมอจึงแนะนำการผ่าตัดหลังแบบแผลเล็ก หรือ MIS เป็นทางเลือกในการรักษาโรคปวดหลังในปัจจุบัน...

ข้อดี-จุดเด่นจากเทคโนฯ ก้าวหน้าทางการแพทย์


ผู้ป่วยหลายต่อหลายรายที่ได้ยินคำว่า “ผ่าตัด” มักออกอาการ “หน้าเบ้” เพราะความรู้สึกส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครก็หวาดหวั่น ซึ่ง “คุณหมอภาสกร” ได้ให้ข้อมูลเพื่อคลายความกังวลโดยระบุว่า
“...แม้จะเคยได้ยินข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับการผ่าตัดหลังในอดีต เช่นว่า ผ่าตัดหลังเสร็จแล้วคงอีกนานกว่าจะทำงานได้เหมือนเดิม หรือผ่าแล้วอาจจะกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ รวมทั้งผู้ที่เคยเห็นภาพรอยแผลแนวยาวที่หลังแล้วมองว่าน่ากลัว ทำให้ใครหลายคนเข็ดขยาดกับการผ่าตัด...แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีส่วนอย่างมากสำหรับ “ศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา” ในการนำ “เทคโนโลยีผ่าตัดหลังแบบแผลเล็ก” หรือ MIS (Minimal Invasive Surgery) มาใช้รักษากับผู้ป่วยโรคปวดหลัง โดยแพทย์จะใช้กล้องส่องขยายที่แสดงภาพให้แพทย์เห็นอย่างชัดเจน จึงสามารถนำเอาเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูกที่กดทับและชิ้นส่วนเล็ก ๆ ออกมาได้... และด้วยการอาศัยเทคโนโลยีที่ว่านี้จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีแผลขนาด 2-3 ซม. และเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดหลังแบบเปิดที่เป็นมาตรฐานเดิม ทั้งนี้ผลดีอื่น ๆ ที่ตามมาได้แก่การลดภาวะติดเชื้อจากการผ่าตัด  กล้ามเนื้อบอบช้ำน้อย พักฟื้นไม่นานก็กลับบ้านได้....นั่นจึงเป็นข้อดีและความแตกต่างซึ่งทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวกว่า และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้นนั่นเอง...”


หลังจากได้ฟังคำอธิบายจนเป็นที่เข้าใจแล้ว “คุณกุลพัทธ์ ได้ตัดสินใจให้ “คุณหมอภาสกร” พาไปเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลลานนาโดยไม่รอให้เกิดความทรมานอีกต่อไป และหลังจากผ่านพ้นทุกขั้นตอนการรักษาด้วยการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวได้เผยให้ทีมงาน "อุ่นใจ...ใกล้หมอ” ได้ทราบด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความปลื้มปิติอย่างเห็นได้ชัดโดยระบุว่า


“...ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกของผมเลยครับ ตอนที่ออกจากห้องผ่าตัดมาใหม่ ๆ ก็ยังมีอาการเจ็บแผลบ้างตามอาการ แต่รู้สึกว่าอาการปวดขา หรืออาการชาร้าวลงขาได้หายไป ซึ่งผมก็นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพียง 3 คืน ก็กลับบ้านได้แล้ว แถมยังมีแผลเป็นขนาดเล็กและกลับไปทำงาน ได้หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์...ต้องขอขอบคุณคุณหมอ เจ้าหน้าที่พยาบาลทุกๆ ท่านที่ช่วยดูแลผมตลอดการรักษาที่นี่ครับ”

นี่เป็นอีกตัวอย่างแสดงถึงกรณีของ ศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา” กับความรับผิดชอบในการช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้าทางการแพทย์จนสามารถพ้นจากอาการป่วยและสามารถฟื้นคืนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน... “หมอจอแก้ว” จึงขอนำมาเผยแพร่ให้ได้รับทราบกันไว้เป็นข้อมูลครับ