โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

31 มีนาคม 2564

โชคเข้าข้าง ผู้ป่วยผ่าตัดต่อมไทรอยด์แล้วจึงรู้ว่ามี “เซลล์มะเร็ง”!!! รพ.ลานนาใช้เทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้องแบบ “ไร้รอยแผลเป็น”...



ทีแรกเข้าใจผิดไม่คิดว่าเป็นโรคไทรอยด์!!

อนที่เริ่มรู้สึกมีอาการผิดปกติเมื่อ 3 ปีก่อน “คุณศศิวิมล วงศ์แสน” ชาวเชียงใหม่วัย 45 ปีเล่าให้ทีมงาน “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” ได้ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองมีทั้งเวียนหัว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว อีกทั้งน้ำหนักก็ลดลงอย่างรวดเร็วจนเกิดความกังวลว่าจะเป็นโรคหัวใจ แต่หลังจากได้เข้ารับการตรวจโดยละเอียดแล้วคุณหมอแจ้งว่าอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจาก “โรคไทรอยด์” ซึ่งเจ้าตัวได้ลำดับความย้อนหลังให้ทราบเพิ่มเติมดังนี้

“...ได้รับการรักษาด้วยการทานยาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 2 ปีเพื่อควบคุมอาการของโรคและได้ติดตามผลการรักษากับคุณหมอเป็นระยะ ๆ โดยในช่วงที่ทานยามีอาการดีขึ้น เมื่อดีขึ้นแล้ว ในระยะหลังคุณหมอให้หยุดยาไป 6 เดือนเพื่อดูอาการของโรคอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นอาการเหมือนเดิม อีก ทั้งผลจากการตรวจเลือดยังพบค่าไทรอยด์ที่สูงอยู่ คุณหมอจึงแนะนำให้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ที่มีปัญหาออก ซึ่งดิฉันได้เลือกเข้ารับการผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านช่องปากแบบไร้แผลเป็น จึงใช้เวลานอนพักอยู่ในโรงพยาบาลลานนาเพียง 2 คืนก็กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านและปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำ จากนั้นก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติ โดยเพื่อน ๆ และคนใกล้ชิดก็ทักเหมือนกันเลยว่าไปผ่าตัดตรงไหนทำไมไม่มีแผลเป็นให้เห็น...ทำให้ดิฉันกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ...คิดไม่ผิดเลยที่เลือกรักษาด้วยวิธีนี้ค่ะ ...”




ข้อดีของวิธีรักษาด้วยเทคโนฯ “ส่องกล้องผ่าตัด”...

ริง ๆ แล้วการรักษาต่อมไทรอยด์ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้และสภาพร่างกายของคนป่วยแต่ละราย ซึ่งจากการให้ข้อมูลโดย “นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์...แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการส่องกล้อง” ประจำ “ศูนย์ศัลยกรรมส่องกล้อง โรงพยาบาลลานนา” ช่วยให้ทราบถึงการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษมักเริ่มจากการทานยา หากรักษาในเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น ก็มักลงเอยด้วยการกลืนแร่ หรือการผ่าตัดเอาไทรอยด์ที่มีปัญหาออกไป เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน คอพอกจะโตขึ้น และบางครั้งอาจมีมะเร็งซ่อนอยู่ได้ โดยวิธีการผ่าตัดไทรอยด์นั้น “คุณหมอราชันย์พัทธ์” สรุปว่าแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ๆ โดยที่ “การผ่าตัดแบบเปิด” จะ เป็นการผ่าตัดมาตรฐานที่มีมานานแล้ว ซึ่งแพทย์จะผ่าตัดที่บริเวณคอในแนวขวาง แต่หลังผ่าตัดแล้วผู้ป่วยจะมีแผลเป็นตามแนวขวางที่คออย่างชัดเจนติดตัวไปตลอดชีวิต...ส่วนอีกวิธีคือ “เทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้อง ซึ่งโรงพยาบาลลานนา จะผ่าตัดผ่านช่องปากแบบไร้แผลเป็น” หรือ Transoral Endoscopic Thyroidectomy ซึ่งข้อดีคือ...ผู้ป่วยสามารถลืมเรื่องแผลเป็นภายนอกได้เลย... ทั้งนี้คุณหมออธิบายเสริมถึงความแตกต่างและข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้ว่า


ผ่าตัดแล้วจึงทราบทั้ง... “ข่าวร้ายและข่าวดี”

ที่น่าสนใจในกรณีการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยรายนี้คือ หลังจาก “ก้อนไทรอยด์” ได้รับการผ่าตัดออกมาจากในลำคอของ “คุณศศิวิมล” แล้วได้ถูกนำส่งให้พยาธิแพทย์ทำการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์อย่างละเอียด เพื่อตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งอย่างไรหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่ามีทั้ง “ข่าวร้าย” และ “ข่าวดี” โดยที่...ข่าวร้ายคือ ก้อนเจ้าปัญหาที่ตัดออกมานั้นเป็น “มะเร็งไทรอยด์”... ขณะที่...ข่าวดีคือ เป็นมะเร็งในระยะแรก แต่ก็ได้รับการกำจัดตัดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!! อีกทั้งโรคคอพอกเป็นพิษ ก็หายเป็นปกติ ...ซึ่ง “คุณหมอราชันย์พัทธ์” ได้ให้ข้อมูลว่า

“...เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้องผ่านช่องปากของผู้ป่วยด้วยการเปิดรูเล็กประมาณ 1-2 ซ.ม.เพื่อสอดอุปกรณ์กล้องขนาดจิ๋วและเครื่องมือผ่าตัดพิเศษด้วยการเลาะไปใต้ผิวหนังลงไปตัดต่อมไทรอยด์ที่มีปัญหาออก ซึ่งการเปิดแผลภายในช่องปากจะช่วยให้การสมานแผลดีกว่าแบบเปิดแผลภายนอก...ช่วยลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อได้มาก...เสียเลือดน้อยกว่า...ขณะที่ผู้ป่วยจะไม่มีแผลเป็นภายนอกเลย...จึงถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของการรักษาที่แตกต่างจากการผ่าตัดแบบเปิดเช่นในอดีตครับ...”


“...มะเร็งต่อมไทรอยด์นั้น หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์จะส่งผลโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ยิ่งหากผู้ป่วยได้รับการรักษาในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและโดยศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้วยแล้ว อัตราเกิดซ้ำก็จะอยู่ในเกณฑ์ต่ำอีกทั้งหลังการรักษาผู้ป่วยสามารถกลับไปมีคุณภาพชีวิตได้เหมือนปกติครับ...”

นอกจากนั้นคุณหมอยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “มะเร็งไทรอยด์” โดยสรุปว่าอาจมีอาการคล้ายกับโรคไทรอยด์ทั่วไป ซึ่งในระยะแรกมักไม่มีอาการปรากฎออกมามากนัก ผู้ป่วยอาจคลำแล้วเจอก้อนที่คอเพียงเล็กน้อยจึงจำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยเพื่อจะได้รักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่มะเร็งจะลุกลามไปยังบริเวณอื่น ซึ่งทางด้านการรักษาจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ดังที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้นแล้ว แต่หากรักษายังเอาไม่อยู่ทั้งยังแย่กว่าเดิมก็จำเป็นต้องถึงขั้น “ผ่าตัด” ซึ่งที่ “ศูนย์ศัลยกรรมส่องกล้อง โรงพยาบาลลานนา” ได้สั่งนำเข้าวิทยาการทางการแพทย์การผ่าตัดไทรอยด์สมัยใหม่ เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้การผ่าตัดไทรอยด์แบบส่องกล้องไร้แผลเป็นมาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งถือเป็นการยกระดับของการรักษาโรคไทรอยด์ในปัจจุบัน...จึงเป็น “ข่าวดี” สำหรับชาวเชียงใหม่และชาวจังหวัดใกล้เคียงที่เจอปัญหาจากโรคนี้จะได้ที่ “ทางเลือก” ในการรักษาได้ตามอัธยาศัย