ปล่อยไว้จนก่อปัญหาเมื่อวัย 38...ใช้ “ตัวช่วย”ก็ไม่ได้ผล...
“...กระดูกบริเวณนิ้วเท้าปูดออกมาให้เห็นเล็กน้อยทำให้นิ้วโป้งเท้าดูเอียง
ๆ แต่ก็ไม่มากนักจึงสามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติเรื่อยมาโดยไม่รู้สึกถึงปัญหาใด
ๆ จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ได้สังเกตเห็นว่านิ้วเท้าที่เอียงออกมานั้นเอียงมากขึ้น
จากที่มีอาการเจ็บปวดบ่อย ๆ เฉพาะเวลาเดิน ก็เริ่มมีอาการปวดอยู่ตลอด
แม้ในตอนที่นั่งอยู่เฉยๆ ยิ่งในเวลาเดินก็จะมีปัญหาสะดุดล้ม รวมทั้งบางครั้งจะมีปัญหาการทรงตัวจนรู้สึกว่าชักจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
ดิฉันจึงได้หาทางทุเลาอาการด้วยการใส่อุปกรณ์ทำจากซิลิโคนมาช่วยถ่างนิ้วโป้ง อีกทั้งยังไปหารองเท้าที่เหมาะสมมาใส่โดยหวังว่าจะบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นแต่ก็ช่วยได้นิดหน่อย
ยังมีอาการอยู่ตลอดจนทนไม่ไหว ต้องไปปรึกษาคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านเท้า
โรงพยาบาลลานนา เพื่อหาทางรักษาให้เร็วที่สุดค่ะ...”
“หมอจอแก้ว” จะพาท่านผู้อ่านไปติดตามรายละเอียดในกรณีของ “คุณเกษริน” ซึ่งได้รับการดูแลโดย “นพ.ปรัชวาล เอี่ยมพร...แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ เชี่ยวชาญพิเศษด้านข้อเท้า” ประจำ “ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา” เพื่อจะได้ทราบว่าที่มาสาเหตุและวิธีการตรวจรักษาเพื่อแก้ปัญหาอาการป่วยด้วยภาวะดังกล่าวนี้สำเร็จลุล่วงไปอย่างไร
ใครเจอภาวะเดียวกันนี้...ควรปรึกษาคุณหมอโดยเร็ว!!
ลักษณะของความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนปลายของ
“คุณเกษริน” นั้น “คุณหมอปรัชวาล” อธิบายสรุปภาวะอาการที่สร้างปัญหาให้กับผู้ที่เผชิญภาวะของโรคนี้หลังจากที่วัน-เวลาได้ผ่านไปแล้วหลายปี
“... ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียงผิดรูป (Hallux Valgus) หรือภาวะนิ้วโป้งเท้าเก โดยที่นิ้วหัวแม่เท้าจะเอียงเข้าหานิ้วชี้
และมีกระดูกหัวแม่เท้าทางด้านในนูนออกมา สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพันธุกรรม
และอีกส่วนหนึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมการสวมใส่รองเท้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นรองเท้าที่มีรูปทรงบีบรัดปลายเท้า
ประมาณรองเท้าส้นสูงปลายแหลมอะไรทำนองนั้นทำให้พบโรคนี้บ่อยในผู้หญิง แต่นอกจากนี้ก็ยังรวมถึงความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น...การอักเสบของข้อในผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ...
อาการในระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่ผู้ที่เจอภาวะนี้อาจสังเกตเห็นนิ้วเท้าตัวเองเอียงไม่สวยงาม
หรือบางรายอาจพบว่ามีอาการปวดนิ้วหัวแม่เท้า
ซึ่งหากสังเกตที่เท้าจะเห็นว่ามีเหมือนปุ่มกลม ๆ
นูนออกมาทางด้านข้างของบริเวณข้อนิ้วหัวแม่เท้า โดยที่ความผิดรูปจะค่อยเป็นค่อยไปพร้อมกับอาการปวดที่โคนนิ้วหัวแม่เท้าที่มากขึ้นเรื่อย
ๆ เมื่อนิ้วเท้าเอียงจะทำให้แรงดึงในเส้นเอ็นต่างๆ ของนิ้วเท้าผิดแนวไป
จึงเป็นส่งผลให้เกิดการผิดรูปและเกิดความเจ็บปวดในที่สุดครับ...”
หลังจากได้พูดคุยสอบถามอาการและประวัติการรักษาตัวจากผู้ป่วยเกี่ยวกับภาวะนิ้วเท้าเอียงที่เกิดขึ้นแล้ว
คุณหมอได้ส่งตัว “คุณเกษริน” ไปเอกซเรย์เพื่อหาความผิดปกติของกระดูกเท้าที่เกิดขึ้น
และได้เริ่มรักษาเบื้องต้นด้วยการแนะให้ปรับพฤติกรรมการเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสมที่มีขนาดพอดีเท้า...ไม่คับ...หัวรองเท้ากว้างที่เวลาสวมใส่จะสามารถขยับนิ้วเท้าได้โดยไม่บีบรัดนิ้วเท้า...
มีพื้นรองเท้าที่นุ่ม... แต่ก็ช่วยได้เพียงแค่บรรเทาอาการเบื้องต้นเท่านั้น...
ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงจากผลการศึกษายังไม่พบว่า
การรักษาโดยไม่ผ่าตัดจะสามารถทำให้นิ้วเท้ากลับมาตรงได้เหมือนเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของผู้ป่วยรายนี้ได้เกิดอาการปวดและข้อนิ้วเท้าผิดรูปมาก...ด้วยเหตุนี้
“คุณหมอปรัชวาล” จึงแนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด...
ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วจะมีด้วยกันมากมายหลายวิธีที่ต้องพิจารณาเลือกให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายให้สอดคล้องกับลักษณะความผิดปกติของกระดูกนิ้วหัวแม่เท้าเป็นหลัก...
คุณหมอผู้ชำนาญการฯ ให้ข้อมูล-ผู้ป่วยเผยประสบการณ์...
จากหลักการพิจารณาดังกล่าว
การผ่าตัดกรณี
“ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียงผิดรูป” สำหรับ “คุณเกษริน”
นั้น “คุณหมอปรัชวาล” ได้สรุปไว้ดังนี้
“... ได้ใช้วิธีผ่าตัดกระดูกส่วนที่นูนออกแล้วจัดกระดูกเพื่อแก้ไขภาวะนิ้วผิดรูปก่อนที่จะยึดกระดูกด้วยโลหะ
ร่วมกับการปรับแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบ ๆ... หลังจากผ่าตัดแล้วจะทำให้หายเจ็บเท้า
เท้าแคบลง ช่วยให้เลือกใส่รองเท้าได้ง่ายขึ้น และลดความเจ็บปวดลงที่เกิดขึ้น
ซึ่งการผ่าตัดแก้ไขนิ้วเท้าเอียงนี้จำเป็นจะต้องใช้ความชำนาญของแพทย์อย่างมากเนื่องจากลักษณะของนิ้วและเท้ามีความซับซ้อน
จึงควรต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านข้อเท้าเท่านั้นเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องที่สุด...”
ภายหลังจากที่การผ่าตัดรักษาผู้ป่วยรายนี้ผ่านพ้นไปแล้ว
“คุณหมอปรัชวาล”
ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมโดยหวังให้ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจาก “ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียงผิดรูป” รายอื่น ๆ โดยระบุว่า
ส่วน “คุณเกษริน” ซึ่งมีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับกรณีการรักษาความผิดปกติที่นิ้วหัวแม่เท้าของตัวเองมาแล้วก็พร้อมสำหรับการ
“บอกต่อ”
เรื่องราวที่ต้องเผชิญความทุกข์จนกระทั่งได้ก้าวข้ามมาเป็นที่เรียบร้อยโดยเผยว่า
“... หลังผ่าตัดเสร็จดิฉันได้นอนพักดูอาการที่โรงพยาบาลประมาณ
5 คืนก็ได้กลับบ้านไปพักฟื้นดูอาการโดยคุณหมอห้ามลงน้ำหนักที่เท้าราว 6
สัปดาห์และมาพบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง อาการก็ดีขึ้นมาเรื่อย โชคดีมาก ๆ
ที่ได้พบกับคุณหมอเฉพาะทางด้านเท้า ศูนย์โรคปวดเข่า รพ.ลานนา ที่มีความชำนาญในการรักษาอย่างมาก
ช่วยผ่าตัดแก้ไขนิ้วที่เอียงของดิฉันให้กลับมาดีขึ้น ทำให้ไม่มีความเจ็บปวดเหมือนที่เคยเป็นมา
เลือกใส่รองเท้าก็ง่ายขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยค่ะ...”.