โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

22 พฤษภาคม 2562

‘นักกีฬาชาวเหนือ’ หมดห่วงกรณีปะทะทำเอ็นเข่าฉีก!! รพ.ลานนา จ.เชียงใหม่ ใช้เทคโนฯ ผ่าส่องกล้องแผลเล็กฯ





 สวมหัวใจสิงห์วิ่งเข้าสกัดบอล...ทำเอา เข่าบิด’!!!

องได้เข้าสู่การแข่งขันในตำแหน่งใดก็ไม่ได้ส่งผลให้นักกีฬาที่พกหัวใจเต็มร้อยลงสนามไปด้วยเป็นต้องสู้สุดฤทธิ์ด้วยกันทั้งในเกมรุกและรับ...เรื่อง “ปะทะ” ไม่ต้องห่วง...ถึงเวลาแล้วเป็นต้องลุยให้กระเจิงกันไปข้างหนึ่งโดยไม่มียอมถอยหรือปล่อยผ่านไปง่าย ๆ เด็ดขาด เพราะนอกจากต้องมุ่งไปให้ถึงดวงดาวแล้ว ยังมีโอกาสกลายเป็นฝ่ายตั้งรับซึ่งต้องรับบทป้องกันอีกเมื่อใดก็ยังไม่มีใครล่วงรู้...ดังนั้น “การบาดเจ็บจากการปะทะ” จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่อาจเลี่ยงได้เลยสำหรับกีฬาประเภทที่ต้องฝ่าด่านผ่านคู่แข่งขันให้ได้จึงจะเก็บแต้มตุนไว้ได้!!!... “กีฬาฟุตบอล” น่าจะเป็นตัวอย่างที่ช่วยให้ท่านผู้อ่านได้ประจักษ์ถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ยิ่งหากมีความชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ทุกลมหายใจเข้าออกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็จะยิ่งได้เห็นนักฟุตบอลต้องลงนอนบิดตัวด้วยความเจ็บปวดอยู่ในสนามโดยเฉพาะเมื่อมีการปะทะอย่างรุนแรงกับผู้เล่นอีกฝ่าย…!!!

หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการปะทะที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งกีฬาอย่างฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นใน “แมตช์” สำคัญระดับใดก็ตาม โอกาสที่จะเกิดแรงกระแทกและตามมาด้วยผลกระทบต่อ “หัวเข่า” ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เสมอ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เข่าบิดถึงกับทำเอา “เข่าบิด” และ “เอ็นไขว้หน้าเกิดการฉีกขาด” โดยไม่ได้คาดคิด...แน่นอนว่าหากเจอถึงขั้นนั้นก็ย่อมก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดตามมา และนักกีฬาที่บาดเจ็บต้องเสียโอกาสในการลงสนามอีกนานนับเดือน...หรือมิฉะนั้นอาจเป็นปีก็มี...ดังจะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับ “คุณธีระเชษฐ์  ธนันชัย” ผู้มีใจรักในกีฬาฟุตบอลอย่างถอนตัวไม่ขึ้นรายหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ “คุณธีระเชษฐ์” ได้เปิดอกเล่าถึงเหตุที่ได้เจอมากับตัวเองว่า... “ระหว่างที่ผู้เล่นของอีกฝ่ายลำเลียงลูกเข้ามา ผมวิ่งเข้าสกัดอย่างเร็วโดยไม่ได้คิดว่าหัวเข่าจะไปกระแทกกับอีกฝ่ายอย่างแรงถึงกับได้ยินเสียงดังกึ๊ก...พร้อมกับมีอาการเจ็บแปล๊บที่หัวเข่าทันทีก่อนที่จะล้มลง ซึ่งหลังจากที่เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันพยุงให้ลุกขึ้นไปพักที่ข้างสนามแล้วก็รู้สึกในตอนนั้นเลยว่าภายในหัวเข่าต้องมีอะไรบางอย่างฉีกขาดแน่นอน และรู้สึกว่าหัวเข่าของเราไม่มั่นคงเหมือนเดิมเสียแล้ว...แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องระวังมากขึ้นหลังจากผ่านวันนั้นแล้วไม่ว่าจะเดิน นั่ง ยืน นอน หรือทำอะไรก็ต้องระวังตัวมากขึ้นเพื่อไม่ให้หัวเข่าบิดมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นได้ตลอดเวลา...กว่าจะเริ่มเข้าไปปรึกษาคุณหมออย่างจริงจังโดยหวังจะรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น เวลาก็ล่วงเลยไปประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ก็ช่วยให้ทราบว่าอาการที่เกิดขึ้นมีเหตุจากเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษาเพื่อซ่อมเอ็นไขว้หน้าเข่าที่ฉีกขาดมานานแล้วนั่นเอง...”



ฝ่าด่าน “งานหิน” ด้วยเทคโนฯ ผ่าตัดผ่านกล้อง...
มื่อเห็นว่าจนแต้มโดยไม่อาจเลี่ยงการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดแล้ว ทำให้ “คุณธีระเชษฐ์” ได้หันเข็มมุ่งหน้าไปที่  “ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา” ด้วยความมุ่งหวังที่จะรักษาอาการให้หายเป็นปกติตามเดิม และได้พบกับ นพ.ภาสกร อุปโยคิน แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อประจำศูนย์ฯ จึงได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดรักษาเส้นเอ็นไขว้หน้าเข่าโดยคุณหมออธิบายว่า “...การรักษาเส้นเอ็นไขว้หน้าที่ฉีกขาดส่วนใหญ่แล้ว จะไม่สามารถเย็บให้ไปติดกันใหม่ได้ จึงต้องสร้างเส้นเอ็นใหม่โดยแพทย์จะใช้เส้นเอ็นจากแหล่งของผู้ป่วยเอง คือ เอ็นสะบ้าติดกระดูก และ เอ็นจากกล้ามแฮมสตริง ซึ่งอยู่ด้านในของเข่า แต่ปัจจุบันนิยม เอ็นจากแฮมสตริง มากกว่าเพราะเอ็นสะบ้าอาจจะทำให้มีปัญหาในการใช้งานเข่าได้ในอนาคต โดยสามารถทำการผ่าตัดรักษาได้ทั้งผ่าตัดแบบเปิดเข่า แต่ผลข้างเคียงหลังการรักษานั้น ผู้ป่วยอาจจะต้องเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดมาก รวมทั้งกล้ามเนื้อรอบ ๆ หัวเข่าจะบอบช้ำจากการผ่าตัด อีกทั้งผู้ป่วยจะต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลานาน แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันได้มีส่วนช่วยให้ ศูนย์โรคปวดเข่า โรงพยาบาลลานนา สามารถใช้ เทคนิคการผ่าตัดรักษาเอ็นไขว้หน้า โดยการผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งจะส่งผลดีแก่ผู้ป่วยมากกว่าในอดีต...


ส่วนที่ว่าจะมี “ข้อดี” อย่างไรนั้น “คุณหมอภาสกร” ให้รายละเอียดว่า... “เทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้อง จะมีข้อดีในแง่ที่ว่าแผลจากการผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้มีขนาดเล็กลงจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิม ทั้งยังช่วยลดการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่อ ส่งผลให้การฟื้นตัวหลังผ่าตัดเร็วขึ้น และโอกาสเข่ายึดติดน้อยกว่า เพราะเหตุว่าเทคโนโลยีการผ่าตัดวิธีนี้จะช่วยให้แพทย์มองเห็นพยาธิสภาพในข้อเข่าชัดเจนกว่าการผ่าตัดเปิดเข่าซึ่งมองด้วยตาเปล่า ส่วนเลนส์ในกล้องจะทำหน้าที่ขยายภาพไปปรากฏที่จอรับภาพ นอกจากนี้เครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดผ่านกล้องมีขนาดเล็ก สามารถสอดเข้าทำผ่าตัดในพื้นที่แคบ ๆ ในเข่าได้สะดวก อีกทั้งการผ่าตัดผ่านกล้องยังช่วยให้แพทย์สามารถเย็บซ่อม หรือ...กรอ...หมอนรองกระดูกได้ง่ายขึ้นด้วย...

 คราวนี้ “หมอจอแก้ว” ขอพาท่านผู้อ่านไปดูกันว่า “คุณธีระเชษฐ์” รู้สึกอย่างไรหลังจากได้เข้ารับการผ่าตัดด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว... “ผมพอใจในการผ่าตัดครั้งนี้มากเนื่องจากไม่มีแผลผ่าตัดเป้นแนวยาวเหมือนที่เคยเห็นมาก่อน หลังผ่าตัดได้สองวันก็เริ่มเดินลงน้ำหนักได้บ้างแล้วและนอนพักที่โรงพยาบาล 3-4 วัน คุณหมอก็อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ โดยที่การรักษาเรื่องเอ็นไขว้หน้าเข่านั้นจำเป็นที่ผมจะต้องกลับมาฟื้นฟูร่างกายให้เส้นเอ็นฟื้นตัวก่อนกลับไปเล่นกีฬาได้อีกครั้งหลังจาก 6 เดือนไปแล้ว...ต้องขอขอบคุณ “คุณหมอภาสกร” รวมทั้งเจ้าหน้าที่ พยาบาลทุกท่านที่ดูแลผมตลอดการรักษาที่ โรงพยาบาลลานนาแห่งนี้ครับ”