โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

31 พฤษภาคม 2562

สาวเชียงใหม่วัย 30 เจอ “โรคปวดหลัง” ทำพิษ… รพ.ลานนา ใช้เทคโนฯ ผ่าแผลเล็ก ฟื้นไว ไปสู้งานต่อ!!



นึกไม่ถึงว่าอายุยังน้อย...จะรอดพ้นทรมาน
ท่านผู้อ่านที่อยู่ในวัย 30 ต้น ๆ ลองถามเพื่อนรอบข้างดูซิว่ามีใครเคยเจอโรคปวดหลังทำพิษจนไม่สามารถออกไปทำการทำงานหรือไปไหนต่อไหนหรือไม่???  เอาเป็นว่าถ้าป้อนคำถามไปแล้วก็อาจได้คำตอบไม่ชัดเจนโดยอาจมีทั้งคนที่บอกว่าเคยปวด และไม่เคยเดือดร้อนรำคาญกับเรื่องพรรค์นี้ ผลก็คือคนถามไม่อาจพึ่งพาเพื่อนคนไหนได้เพราะด้วยวัยขนาดนั้นย่อมยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นปกติเป็นส่วนใหญ่ หากจะมีปวดหลังบ้างก็อาจเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราวจากการที่ไปใช้หลังผิดวิธี หรือไปออกกำลังแบบฮวบฮาบจากที่ไม่เคยทำมาก่อน หรืออื่นใดก็ตามซึ่งอาจหายไปในไม่กี่วันจึงทำให้สาวชาวเชียงใหม่รายหนึ่งซึ่งเพิ่งจะเริ่มมีวัยถึง 30 ปีได้ไม่กี่เดือนแต่ต้องมาแบกความทุกข์จากอาการปวดหลังรุนแรงแตกต่างไปจากคนรอบข้าง เรื่องนี้เจ้าตัวคือ “คุณสรญา รัตนไตร” ได้เปิดใจเล่าว่า 

“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเราปวดหลังเพราะสาเหตุอะไร? ถ้าเดาคือจริง ๆ แล้วน่าจะมาจากการที่เราทำงานมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียน เรียกได้ว่าเราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย พัฒนาตนเองเรื่อยมา ขยับขยายธุรกิจต่อยอดมาจนประสบความสำเร็จได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจากการที่เราทำงานหนักมาตลอดโดยไม่ได้ดูแลสุขภาพตัวเองเท่าที่ควรเนื่องจากคิดว่าอายุยังน้อยคงไม่เจอกับอาการปวดหลัง แต่ดิฉันคิดผิดเพราะอาการปวดหลังของดิฉันตอนแรกยังไม่ได้มีอาการหนักมากมายขนาดนี้ เพราะคิดว่ามาจากการที่เราเดิน ยืน นั่งนาน ๆ ก็น่าจะมาจากความเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่พอวันเวลาผ่านไป อาการปวดหลังที่มีอยู่เริ่มรุมเร้าชีวิตของดิฉันเรื่อยมา จากเจ็บน้อย ๆ ก็เริ่มเจ็บมากขึ้น เริ่มมีอาการชาร้าวลงขา เวลาทำงานนาน ๆ หรือ ยืน เดินได้ไม่นานก็ต้องนั่งพัก เพราะทนความปวดไม่ไหว จนหนักที่สุดถึงขั้นที่เดินเองไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ก้าวเท้าไปจะเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด เมื่อทนไม่ไหวต้องไปให้คุณหมอรักษาโดยไปที่ ศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ค่ะ” 

อุปกรณ์การแพทย์ช่วยหา “รอยโรค”

นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้องของสาวเชียงใหม่ผู้ขยันขันแข็งรายนี้ เพราะเมื่อไปถึงที่หมายแล้ว “คุณสรญา” ได้รับการตรวจโดย “นพ.เดชวัศวร์ ศิวัชพันธุ์  แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ ประจำศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา”  และหลังจากเล่าถึงประวัติสุขภาพที่ผ่านมารวมถึงอาการปวดหลังพร้อมข้อสันนิษฐานของเจ้าตัวด้วยแล้ว “คุณหมอเดชวัศวร์” ได้ส่งผู้ป่วยเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีตรวจร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI จึงช่วยให้เห็นพยาธิสภาพของโรคได้ชัดเจน เช่น เส้นเอ็น หมอนรองกระดูก น้ำหล่อเลี้ยงกระดูกสันหลัง และสภาวะภายในของกระดูกสันหลัง ซึ่งช่วยให้คุณหมอประเมินถึงสาเหตุของการอาการปวดหลังที่แท้จริงซึ่งก็คือ “กระดูกสันหลังของผู้ป่วย รวมทั้งหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาทสันหลัง”...

คราวนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเหตุใด “คุณสรญา”  จึงมีอาการปวดหลังมาโดยตลอด ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ อาการก็จะยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่เจ้าตัวได้เล่าย้อนถึงประสบการณ์อันขมขื่นให้ทราบนั่นเอง...แลพภายหลังจากที่ทราบถึงที่มาสาเหตุของอาการปวดหลังแล้ว “คุณหมอเดชวัศวร์” ก็ได้ให้การรักษาเบื้องต้นโดยให้ผู้ป่วยทำกายภาพบำบัด และฉีดยารอบรากประสาทสันหลังเพื่อระงับอาการปวดที่เกิดขึ้น  เนื่องจากผู้ป่วยอายุยังน้อย...แต่เมื่อให้การรักษาแบบนั้นแล้วไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเท่าที่ควร คุณหมอจึงแนะนำให้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดหลังในที่สุด พร้อมทั้งยังอธิบายด้วยว่า...การผ่าตัดกระดูกสันหลังในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่และน่ากลัวเหมือนในอดีต...ซึ่งหลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องที่มีการเล่าขานต่อกันมานานเกี่ยวกับกรณีการผ่าตัดหลังตั้งแต่อดีต เช่นมีการให้ข้อมูลว่าผ่าตัดหลังเสร็จแล้วต้องรอพักอีกนานกว่าจะทำงานได้เหมือนเดิม หรือบางทีก็พูดว่าผ่าแล้วอาจจะกลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ รวมทั้งเรื่องร่องรอยแผลผ่าตัดที่เห็นเป็นแนวยาวอยู่ด้านหลังก็น่ากลัว จึงส่งผลให้ใครต่อใครเข็ดขยาดกับการผ่าตัดเรื่อยมา!!!


พ้นทุกข์ด้วยเทคโนฯ ผ่าตัดแผลเล็ก หายไว
ผิดกับในปัจจุบันซึ่ง คุณหมอเดชวัศวร์” เผยว่าในวงการแพทย์ได้ก้าวหน้าไปมากโดยมีการคิดค้น “เทคโนโลยีการผ่าตัดหลังแบบแผลเล็ก” หรือเรียกง่าย ๆ ว่า MIS ซึ่งย่อมาจากคำว่า Minimal Invasive Surgery แบบเดียวกับที่ “ศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา ได้นำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคปวดหลังโดยเป็นเทคนิคที่ต่างจากเมื่อก่อนตรงที่คุณหมอจะเปิดแผลขนาด 2-3 ซม. อันเป็นผลให้ผู้ป่วยเสียเลือดระหว่างการผ่าตัดน้อย กล้ามเนื้อบอบช้ำน้อย จึงทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ไวกว่า และกลับบ้านได้เร็วมากขึ้น ซึ่งต่างจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ต้องเปิดแผลขนาดประมาณ 5 – 10 ซม.เพื่อทำการผ่าตัดรักษา...

หลังจากที่  “คุณสรญา”  ได้เข้ารับการผ่าตัดด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้แล้ว เจ้าตัวบอกเลยว่า “เหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะความเจ็บปวดทรมานที่เคยมีอยู่ตลอด มันได้ลดน้อยถอยไปอย่างรวดเร็ว จนดิฉันรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 2 คืนก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ ดิฉันก็สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจของดิฉันได้ตามปกติค่ะ...และจากประสบการณ์นี้ทำให้ดิฉันคิดว่าต่อไปต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น ไม่ยกของหนัก ไม่นั่งยืนเดินนาน ไม่โหมทำงานหนักเกินไป รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพราะการมีสุขภาพดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ได้อยู่กับครอบครัวอันเป็นที่รัก ถือเป็นความสุขอย่างที่ดิฉันต้องการค่ะ...”

ต้องขอขอบคุณผู้ป่วยสาวรายนี้ที่ได้ช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการขจัดโรคปวดหลังของเธอสำหรับเป็นข้อมูลความรู้แก่ชาวเชียงใหม่และชาวเหนืออีกหลายต่อหลายคนที่ยอมทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดหลังเพราะไม่ทราบถึงความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าดังเช่นการผ่าตัดรักษาโรคปวดหลังดังที่ ศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา นำมาใช้ในกรณีของ คุณสรญา”  นั่นเอง

หมอจอแก้ว