ก่อนจะพาไปติดตามรายละเอียดต่อไป “หมอจอแก้ว”
จะขอบอกเล่าเรื่องราวของ “โรคไส้เลื่อน”
ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง
แต่อาจเป็นเพราะฝ่ายที่เจอฤทธิ์ของโรคนี้มักเป็นคุณผู้ชายส่วนใหญ่มาแต่ไหนแต่ไรแล้วโดยมีโอกาสเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งทั้งที่ขาหนีบ, ผนังหน้าท้อง, สะดือ
และรอยแผลผ่าตัดเดิม ทั้งนี้วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือ
การผ่าตัดซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้พ้นความทรมานจากโรคนี้ได้...แต่ด้วยเหตุที่การผ่าตัดไส้เลื่อนอาจฟังดูน่ากลัว
และที่ผ่านมาวิธีการผ่าตัดรักษานั้นคุณหมอจะทำการเปิดแผลเป็นแนวยาวทีเดียวเพื่อความสะดวกในการกำจัดปัญหาไส้เลื่อนจึงเป็นผลให้ผู้ป่วยต้องพักฟื้นหลายวันหลังการผ่าตัดเพื่อรอให้แผลหาย
โดยที่รอยแผลผ่าตัดยังจะคาอยู่โดยไม่อาจกำจัดได้ จึงส่งผลให้คนรุ่นหลังได้รับรู้และถ่ายทอดความรู้สึกเชิงลบสู่กันและกันเรื่อยมา!!!
สำหรับสาเหตุของการเกิด “โรคไส้เลื่อน” นั้น “นพ.ชนะพงศ์ จิรพรเจริญ”...แพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมส่องกล้อง
โรงพยาบาลลานนา อธิบายว่า “...โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผนังหน้าท้องบางจุดมีความอ่อนแอ ซึ่งอาจเกิดจากความเสื่อมตามอายุที่มากขึ้น
ลักษณะอาการคือ ลำไส้มีการไหลเลื่อน หรือทะลักเข้าไปในบริเวณใด บริเวณหนึ่ง เช่น
บริเวณขาหนีบ หรือถุงอัณฑะ เป็นต้น ทำให้เป็นก้อนตุง โดยมักมีอาการแสดงเวลามีแรงดันในช่องท้องสูง
เช่น เวลาไอ จาม เบ่งถ่าย ยกของหนัก เป็นต้น...” ส่วนทางด้านของการรักษานั้น
“คุณหมอชนะพงศ์” ระบุว่า “...ดีที่สุดก็คือการผ่าตัดเท่านั้น...” ทั้งนี้เพื่อจะได้นำลำไส้หรืออวัยวะอื่นกลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม
และเย็บปิดรู หรือเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหรือพังผืดที่เป็นจุดอ่อนให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออก...ซึ่งการผ่าตัดรักษาที่ใช้ในปัจจุบันจะมี
2 แบบ หลัก ๆ คือ “การผ่าตัดแบบเปิด” ซึ่งอธิบายได้ว่าเป็นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลยาวประมาณ
8 – 10 ซม.เพื่อเป็นช่องทางเข้าไปผูกตัดถุงที่ยื่นออกมาและเย็บซ่อมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหา
แต่วิธีนี้เนื้อเยื่อที่ถูกเย็บติดตรึงกันจะส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวดหลังผ่าตัด
เสียเลือดมาก พักฟื้นในโรงพยาบาลราว 5 – 7 วัน เมื่อกลับไปทำงานแล้วยังต้องอาศัยเวลาในการเดินยืดตัวตรงให้ได้ตามปกติโดยมีแผลเป็นรอยยาวติดตัวไปตลอด...
แต่เมื่อเทคโนโลยีในวงการแพทย์ได้ก้าวหน้าไปมากยิ่งขึ้น ได้ช่วยให้คุณหมอมีอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาไส้เลื่อนด้วยเทคนิคการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องโดยการเจาะรูขนาดเล็กที่บริเวณผนังหน้าท้องประมาณ
3 รูสำหรับสอดใส่กล้องขนาดเล็กเข้าไปพร้อมกับเครื่องมือผ่าตัดพิเศษเพื่อทำการซ่อมผนังหน้าท้องด้านในให้แข็งแรง
อีกทั้งยังมีการใช้แผ่นใยสังเคราะห์ปูคลุมผนังหน้าท้องส่วนที่มีปัญหาอันเป็นการป้องกันมิให้กลับมาเป็นซ้ำอีก...ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยที่จะเข้ารับการผ่าตัดที่มีแผลขนาดเล็ก
ช่วยให้เจ็บตัวน้อย หายไว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
ทั้งยังลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำไปพร้อมกัน!!!
เขียนมาถึงตรงนี้ก็เชื่อว่าท่านผู้อ่านชาวเหนือคงจะเข้าใจได้ทันทีถึงสาเหตุที่
โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ ได้ตัดสินใจนำ “เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง” มาเป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับรักษา
“โรคไส้เลื่อน”
ให้กับผู้ที่ต้องเจอฤทธิ์ของโรคนี้ได้พบกับความพึงพอใจและประทับใจกับการบำบัดรักษาเหมือนที่
“หนุ่มเบิร์ด” ได้แฮปปี้มาแล้วพร้อมกับฝากข้อคิดทิ้งท้ายว่า “...แผลเล็ก
เจ็บน้อย ฟื้นไว หายเร็ว ไร้แผลเป็นแนวยาว...” ซึ่งก็ไม่ยากสำหรับท่านผู้อ่านชาวเหนือที่จะจดจำกันไว้...ใช่ไหมครับ???
หมอจอแก้ว