แปลกแต่จริง...หมื่นรายพบได้แค่ 1 เดียว??
แม้ว่าตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจจะไปอยู่ฝั่งขวาซึ่งผิดกับคนทั่วไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้นจากการคุกคามของ “มัจจุราชเงียบ” แต่อย่างใด แถมยังส่งผลให้ “คุณฐิติศักดิ์ วังคะวงษ์” เจ้าของหัวใจรายนี้เกือบต้องเสียท่าอีกต่างหากหลังจากที่เจ้าตัวไปวิ่งออกกำลังกายได้ไม่นานนักก็เริ่มปวดหัว วิงเวียนศีรษะขึ้นมาแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงได้หยุดพักและเปลี่ยนไปออกกำลังกายอย่างอื่น แต่อาการก็ยังคงมีมาเรื่อย ๆ โดยเริ่มแน่นท้อง เหมือนมีลมหรือแก๊สในกระเพาะเยอะพ่วงมาด้วยจนต้องเรอออกมาเป็นระยะ ๆ แต่เจ้าตัวยังคิดว่าคงเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหารธรรมดา แต่แล้วก็ต้องหยุดทุกอย่างเพราะเริ่มมีอาการจุกแน่นหน้าอก รู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมากดทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก บางครั้งยังปวดร้าวไปทางไหล่ขวาอีกด้วยแม้จะหยุดพักการออกกำลังกายแล้ว ทำให้ลูกสาวที่ไปออกกำลังอยู่ด้วย รวมทั้งปรึกษาน้องสาวซึ่งมีความรู้ทางสุขภาพ ได้รีบหาข้อมูลก่อนที่จะแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพราะเข้าข่ายน่าสงสัยว่าเป็น “โรคหัวใจ”
เมื่อเป็นดังนั้น “หนุ่มเคสพิเศษ” ผู้มีหัวใจอยู่ข้างขวารายนี้จึงดิ่งไปที่ “โรงพยาบาลลานนา” ด้วยทราบว่าเป็นศูนย์โรคหัวใจ โดยไม่รอช้าและรีบแจ้งให้คุณหมอทราบถึงตำแหน่งของหัวใจที่ไม่เหมือนใครให้คุณหมอได้ทราบไว้ก่อน เพราะกรณีที่มีหัวใจไปอยู่กลับข้างนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ซึ่งหากไม่แจ้งให้คุณหมอทราบไว้ก่อนก็อาจส่งผลให้การตรวจรักษาเกิดการผิดพลาดได้ เหมือนดังที่เจ้าตัวได้เล่าว่ามีการปวดร้าวที่ไหล่ขวาซึ่งสำหรับคนทั่วไปแล้วส่วนใหญ่มักเกิดอาการที่ซีกซ้ายใกล้บริเวณของหัวใจ ซึ่งล้วนมีผลต่อการตรวจวินิจฉัยทั้งสิ้นทำให้ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการตรวจหรือติดเครื่องมือให้เหมาะสมกับผู้ป่วยหัวใจด้านขวาโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของแพทย์ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยหายากเหมือนอย่างรายนี้...ทำให้การพึ่งพาอาศัยแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงถือเป็นเรื่องจำเป็น!!!
ถึงแม้จะรู้ตัวว่าหัวใจของตัวเองจะอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งผิดกับคนอื่น ๆ แต่ “คุณฐิติศักดิ์” ก็ยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาป่วยด้วยโรคหัวใจ พร้อมทั้งเผยว่าอาจจะเกี่ยวโยงไปถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตในอดีตที่ได้ส่งผลกระทบตามมา ทั้งจากการดื่มเหล้าเมาสุรา ชอบทานอาหารหวานมันโดยไม่คำนึงถึงคุณค่าโภชนาการ และโดยเฉพาะเรื่องการสูบบุหรี่ที่อาจเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดโรค แม้ว่าจะได้พยายามลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งเหล้าและบุหรี่ รวมทั้งปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยการหันมาออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ทันกับการที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอันเป็นผลให้ “โรคหัวใจ” ที่ซ่อนอยู่แสดงอาการออกมาในคราวนี้!!!...ซึ่งหลังจากได้พบกับ “นพ.รัตนชัย ชาญชัย” ซึ่งเป็น “แพทย์ประจำศูนย์บอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลลานนา” และได้เล่าอาการให้ฟังแล้วคุณหมอได้ตรวจร่างกายพร้อมกับแนะนำให้ทำการฉีดสีสวนหัวใจทำให้พบว่า “เส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น” ซึ่งคุณหมอได้แนะนำให้ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจโดยได้อธิบายถึงวิธีการรักษาที่เข้าใจง่ายโดยอาศัยเทคโนโลยีก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยให้เจ้าตัวเกิดความเชื่อถือมั่นใจก่อนตัดสินใจรับการรักษา เพราะอยากให้โรคนี้หายโดยเร็วที่สุดนั่นเอง
ผ่านวิกฤติด้วยเทคโนฯ ก้าวหน้าไม่ต้องผ่าตัด
ถึงแม้ผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษารายนี้จะมีหัวใจอยู่ทางด้านขวา แต่ “ศูนย์บอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลลานนา” ก็ได้อาศัยประโยชน์จาก เทคโนโลยีการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจผ่านทางข้อมือ โดยทำการสวนหลอดเลือดแดงที่ข้อมือซึ่งมีความปลอดภัยเนื่องจากหลอดเลือดอยู่ตื้นและปราศจากอวัยวะใกล้เคียงที่จะมีโอกาสบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการหยุดเลือดหลังจากเอาอุปกรณ์ออกได้ง่ายกว่าโดยเป็นเทคนิคเฉพาะที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์มากกว่าการสวนเข้าทางหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบของผู้ป่วย โดยสวนท่อขนาดเล็กเข้าทางหลอดเลือดแดงเข้าไปตามหลอดเลือดไปจนถึงหลอดเลือดหัวใจ แล้วใส่สายขนาดเล็กผ่านท่อไปยังบริเวณหลอดเลือดหัวใจที่ตีบ แล้วใส่บอลลูนไปตามสายไปจุดที่หลอดเลือดหัวใจตีบ จากนั้นจึงขยายบอลลูน เพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจก่อนที่จะสอดใส่ขดลวดผ่านสายเข้าไปค้ำบริเวณที่ขยายด้วยบอลลูนเพื่อป้องกันมิให้หลอดเลือดหัวใจกลับมาตีบซ้ำอีก...ซึ่งหลังจากผ่านการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจเป็นที่เรียบร้อย “คุณฐิติศักดิ์” ได้เปิดใจเผยด้วยความยินดีปรีดาว่า
“...ระหว่างที่คุณหมอรักษาหัวใจด้วยวิธีการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดให้นั้นผมรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ขณะทำก็ไม่รู้สึกเจ็บอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก ไม่ทรมาน และรับรู้เห็นจอภาพที่แสดงผลตลอดเวลา ใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน พูดได้ว่าสบาย ๆ เลยครับ และเมื่อทำเสร็จแล้วได้นอนพักที่โรงพยาบาลลานนา 2-3 วันผมก็กลับบ้านได้แล้ว ซึ่งขอเล่าอีกนิดว่าการรักษาโรคหัวใจด้วยการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดครั้งนี้คุณหมอได้ทำให้ทั้งหมด 2 ตำแหน่งจากที่ตีบทั้งหมด 3 แห่งโดยการสวนเข้าที่ข้อมือ 1 ครั้งและอีกครั้งได้สวนขยายเข้าทางขาหนีบ สำหรับอีกเส้นยังไม่ตีบถึงขั้นร้ายแรงถึงกับต้องขยาย...เท่ากับว่าตอนนี้ผมมีขดลวดอยู่ในหลอดเลือดหัวใจ 2 เส้น...ซึ่งพูดแล้วก็ยังเสียวไส้ที่ว่า หากตัดสินใจกลับบ้านในวันนั้นโดยปล่อยให้อาการยังมีอยู่ ผมอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โชคยังดีที่ตัดสินใจมาพบแพทย์ รับรู้ถึงอาการเตือนทำให้เราแก้ปัญหาได้ทันท่วงที ต้องขอบคุณ ทีมเจ้าหน้าที่พยาบาลทุกท่าน และ“คุณหมอรัตนชัย” แพทย์ประจำศูนย์บอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ โรงพยาบาลลานนา ที่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาของผมเป็นอย่างดี และดูแลผมตลอดการรักษา ตลอดจนคำแนะนำของคุณหมอที่ผมจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดถ้าไม่อยากให้โรคหัวใจกลับมาซ้ำอีก...”
เห็นหรือยังครับว่า ผู้ที่ตัดสินใจเลือกได้แบบถูกที่ถูกทางอย่างกรณีของ “คุณฐิติศักดิ์” ก็สามารถรอดพ้นเงื้อมมืออำมหิตของ “มัจจุราชเงียบ” และพ้นวิกฤติมาได้เช่นกัน ซึ่งประสบการณ์ของ “บุคคลพิเศษ” ที่มีหัวใจอยู่คนละด้านกับพวกเราทั่ว ๆ ไปก็ต้องถือเป็นเครื่องสอนใจให้ตระหนักถึงภัยเงียบ “โรคหัวใจ” ที่ไม่มีเห็นแก่หน้าใครทั้งนั้นไม่ว่าจะมีหัวใจอยู่ทางหน้าอกด้านไหนก็มีสิทธิ์เจอเหมือนกันนะครับ