รพ.ลานนา ระบุ...ชาย-หญิงวัยใดก็ไม่ควรประมาท “ไส้เลื่อน” !!! …
แนะรักษาด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้อง...แผลเล็กฟื้นตัวเร็ว
ปล่อยคาไว้เป็นปีกว่าจะรู้ฤทธิ์ “โรคไส้เลื่อน”!!!
มาแบบไม่รู้ตัวสำหรับอาการ
“ไส้เลื่อน” ซึ่งจู่ ๆ ก็แอบเข้ามาเยือนหนุ่มเชียงใหม่วัย 27 ปีตั้งแต่ตอนไหนเจ้าตัวเองก็นึกไม่ออก
บอกได้แค่สังเกตเห็นความผิดปกติที่บริเวณท้องน้อยตอนที่เข้าห้องน้ำเตรียมชำระล้างร่างกายอันเป็นกิจวัตรประจำวัน
แต่กระนั้นก็ไม่ได้ติดใจสงสัยใด ๆ เพราะเหตุที่มิได้มีความรู้สึกเจ็บปวดให้ระคายเคืองแต่ประการใด
จนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกปี และมีความผิดปกติหนักกว่าเดิมและกลายเป็นเรื่องหนักใจจนได้
ทำให้หนุ่มผู้มีนามว่า “อนุชา สังข์ทอง” อดรนทนไม่ได้ต้องหาทางคลี่คลายให้หายข้องใจในปัญหาที่ได้เผชิญตลอดปีกว่าที่ผ่านมาจนกระทั่งได้ไปรับการตรวจ-รักษาที่โรงพยาบาลลานนาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้
ซึ่งทำให้ทราบว่าปัญหาที่ว่านี้คือ “โรคไส้เลื่อน”
และหลังจากได้รับการบำบัดรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้เผยให้ทีมงาน “อุ่นใน...ใกล้หมอ”
ได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า
“... ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นโรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ ซึ่งถ้าถามว่าต้นตอสาเหตุมาจากไหนผมก็ตอบให้ชัดเจนไม่ได้มากนัก
แต่ถ้าถามถึงอาการผิดปกติละก็ต้องขอย้อนไปประมาณปี 60 เวลาอาบน้ำจะสังเกตตัวเองจึงเห็นว่าบริเวณหัวเหน่าเริ่มมีก้อนนูนทั้งสองข้างไม่เท่ากันโดยไม่มีอาการเจ็บปวดใด
ๆ ก็เลยปล่อยไว้เรื่อยมาจนถึงปี 2561 ได้มีปัญหาสุขภาพตามมาจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด จนแพทย์ต้องแนะนำให้ควบคุมอาหาร
และออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักตัวเอง ทำให้ผมไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสอย่างเต็มที่จนน้ำหนักลดลงเกือบ
20 กิโลกรัมในระยะเวลา 3-4 เดือนซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีต่อสุขภาพของผมเป็นอย่างมาก
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็บอกไม่ถูกถึงความรู้สึกเกี่ยวกับความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ภายในเพราะไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบเข้าให้แล้ว...”
จะเห็นได้ชัดว่าการไปใช้บริการในสถานบริหารร่างกายหรือ “ฟิตเนส
เซ็นเตอร์” อย่างเอาจริงเอาจังตามที่ “คุณอนุชา” ถ่ายทอดให้เราได้ทราบนั้นมีผลต่อการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
แต่มิได้ส่งผลให้ขนาดของก้อนนูนที่ท้องน้อยเกิดความเปลี่ยนแปลงให้สัมผัสหรือเห็นได้เลย
ทั้งยังเกิดอาการปวดหน่วงสร้างความไม่สบายใจตามมาอีกซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เจ้าตัวต้องไปติดต่อขอรับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาลลานนาโดยไม่ปล่อยทิ้งไว้เหมือนก่อนหน้านี้...
ช่วงนี้จะขอพักคำบอกเล่าของหนุ่มวัย
27 รายนี้ไว้ชั่วคราว
เพื่อนำท่านผู้อ่านไปติดตามคำอธิบายจากคุณหมอเจ้าของไข้คือ “นพ.ราชันย์พัทธ์
วรเวชานนท์”... ศัลยแพทย์ประจำศูนย์ศัลยกรรมส่องกล้องผ่าตัดแผลเล็กไส้เลื่อน... “โรงพยาบาลลานนา”...
ซึ่งกล่าวไว้ดังนี้
“...ผู้ป่วยรายนี้เข้ามาที่โรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง
ซึ่งก็ได้รักษาตามอาการปวดท้องโดยทั่วไป แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
จึงส่งตัวมาให้แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยอาการอีกครั้ง
โดยหลังจากซักประวัติสอบถามอาการ และตรวจร่างกายเบื้องต้น
ก็พบความผิดปกติที่บริเวณหัวเหน่าของผู้ป่วยซึ่งมีก้อนนูนขึ้นมา
ประกอบกับอาการตามคำบอกเล่าของเจ้าตัวก็ได้เข้าข่ายของ “โรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ”
อย่างชัดเจน จึงได้แนะนำการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษาโรคไส้เลื่อนในปัจจุบัน...”
ทั้งนี้คุณหมอได้สรุปถึงภาพรวมของการรักษาไส้เลื่อนว่าจะต้องอาศัยการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้หรืออวัยวะอื่นให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม
จากนั้นจึงเย็บปิดรูหลังจากได้ทำการเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหรือพังผืดที่เป็นจุดอ่อนให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออก...
ซึ่งในปัจจุบัน “รพ.ลานนา” ได้อาศัย “เทคโนโลยีแบบใช้กล้องส่องในการผ่าตัดรักษาโรคไส้เลื่อน”
ซึ่งเป็นการเจาะรูขนาดเล็กที่บริเวณผนังหน้าท้องประมาณ 3 รู สำหรับเป็นช่องทางใส่กล้องขนาดเล็กและเครื่องมือผ่าตัดพิเศษเพื่อเข้าไปซ่อมผนังหน้าท้องด้านในให้แข็งแรง
โดยการใช้แผ่นใยสังเคราะห์ปูคลุมผนังหน้าท้องส่วนที่เกิดปัญหาเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
และด้วยเทคโนโลยีผ่าตัดแบบส่องกล้องนี้จะช่วยลดโอกาสการเป็นซ้ำ ขณะที่ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บน้อยจึงสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเดิม
โดยจะมีแผลจากการผ่าตัดขนาดเล็กและไม่มีรอยแผลเป็นแนวยาวที่หน้าท้องเหมือนการผ่าตัดเปิดแผลยาวแบบเดิม
เปิดประสบการณ์การผ่าตัดครั้งแรกในวัยหนุ่ม!!
กลับมาติดตามถ้อยคำจาก
“คุณอนุชา”... หนุ่มวัย 27 ปีที่มีอันต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคไส้เลื่อนโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่ว่าเจ้าตัวจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
แต่หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดโดยอาศัยเทคโนโลยีส่องกล้องที่
รพ.ลานนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวได้เผยให้ทีมงาน “อุ่นใจ...ใกล้หมอ”
ได้ทราบถึงประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า
“...จากคนที่ไม่เคยนอนโรงพยาบาล ไม่เคยผ่าตัดมาก่อน
วันนี้ได้เจอประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง ... ทำให้พบว่า เทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาในปัจจุบัน
ทำให้ผมลืมภาพการผ่าตัดในอดีต หรือคำบอกเล่าของผู้อื่นไปเลย
การผ่าตัดใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษ ๆ และที่ประทับใจอีกเรื่องคือหลังผ่าตัดไม่ถึง 2
ชั่วโมงผมก็ฟื้นตัวได้ปกติแถมยังเข้าห้องน้ำเองได้ด้วย
ไม่ต้องนอนซมบนเตียงเหมือนคนผ่าตัดใหญ่ทั่วไป มีแค่อาการหน่วง ๆ
ท้องบ้างเล็กน้อยเวลาลุกเดิน รอยแผลผ่าตัดก็ไม่ได้น่ากลัว มีเพียง 3 รูเล็ก ๆ
ที่หน้าท้องซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานเมื่อแผลแห้งสนิทดี รอยแผลเหล่านี้ก็คงจะค่อย ๆ
จางไปตามเวลา ที่สำคัญอาการปวดท้อง หน่วงท้อง
และความรู้สึกไม่สบายตัวจากโรคไส้เลื่อนของผมได้หายไปอย่างปลิดทิ้ง
และหวังว่ามันจะไม่กลับมาเยือนผมอีกครั้งเท่านั้นเอง...”
ประเด็นที่หนุ่มรายนี้ไม่ลืมกล่าวถึงคือ...ความขอบคุณที่มีต่อ
“คุณหมอราชันย์พัทธ์” ตลอดทั้งทีมพยาบาลที่ได้ร่วมดูแลเป็นอย่างดีระหว่างที่เข้ามารักษาตัวที่
“รพ.ลานนา” เมื่อไม่กี่เดือนมานี้