โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

14 กันยายน 2561

#อุ่นใจ...ใกล้หมอ #เดลินิวส์ รพ.ลานนา อาศัยเทคโนโลยีก้าวหน้า "ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า" ช่วยผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยลง-กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น

          รพ.ลานนาอาศัยเทคโนฯ ก้าวหน้าผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

          ช่วยผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยลง กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น

          ดูเหมือนว่า โรคข้อเข่าเสื่อม จะมาสร้างผลกระทบให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งย่อมต้องมีความเสื่อมสภาพตามอายุที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันโรคนี้พบได้บ่อยขึ้นทั้งจากสาเหตุของการเล่นกีฬา  อุบัติเหตุ  หรือโรคต่างๆ ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแนวทางการรักษาจะว่ากันไปตามความรุนแรงของโรคโดยเริ่มจากการให้ยา ฉีดยา กายภาพบำบัด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่หากผ่านการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผลละก็ทางออกสุดท้ายที่ผู้ป่วยหนีไม่พ้นคือ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้อีกครั้งแต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าให้ชัดกันก่อนคือ การเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะต้องได้รับการวินิจฉัยจากคุณหมออย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ป่วยผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้วยังไม่ประสบผลสำเร็จ จึงจะมาพิจารณาทางเลือกคือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม และผู้ป่วยเองก็ต้องเข้าใจถึงวิธีการและความเสี่ยงจากผลข้างเคียงอันอาจตามมาจากการผ่าตัดด้วยเช่นกัน แต่ ถึงอย่างไรก็ยังมีผู้ป่วยที่เกิดความกังวลว่าหากเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแล้วเขาจะสามารถเดินเหินได้เหมือนเดิมหรือไม่ รวมทั้งข้องใจถึงระยะเวลาการพักรักษาตัวว่านานเพียงใดกว่าจะใช้การได้ตามปกติอีกต่างหาก

          เพื่อคลายความข้องใจ และให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ หมอจอแก้ว จึงขออาสาพาไปติดตามข้อมูลจาก นพ.ภาสกร  อุปโยคิน  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และข้อประจำศูนย์โรคปวดเข่า รพ.ลานนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการนำ เทคโนโลยีก้าวหน้าในวงการแพทย์ เพื่อเปลี่ยนข้อเข่าเทียม มาบำบัดรักษาให้แก่ผู้ป่วย โดย คุณหมอภาสกร ได้อธิบายว่า 

          “...หลังจากได้ตรวจวินิจฉัยจนแน่ชัดแล้วว่าผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาด้วยการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมได้ ก็จะเริ่มจากการตรวจร่างกายของผู้ป่วยทั้งเรื่องของหัวใจ ปอด ความดันโลหิต เบาหวาน และค่าไตว่าปกติดีหรือไม่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการผ่าตัด หากยังมีปัญหาก็จะต้องรักษาให้เป็นปกติก่อน จากนั้นจึงจะเอ็กซเรย์ตรวจดูหัวเข่าข้างที่มีปัญหา และวัดขนาดเพื่อทำข้อเข่าเทียมให้เหมาะสมสอดรับกับผู้ป่วยแต่ละราย และเมื่อผู้ป่วยพร้อม ข้อเข่าเทียมพร้อมแล้วจึงจะเข้าสู่ปฏิบัติการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า โดยเริ่มตั้งแต่วิสัญญีแพทย์ให้ยาสลบแก่ผู้ป่วย เพื่อระงับความรู้สึกขณะที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัด โดยผ่าเปิดหัวเข่าและตัดกระดูกส่วนที่เสียออกไปก่อนใส่ข้อเข่าเทียมที่เตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยที่ข้อเข่าเทียมนี้จะผลิตจากวัสดุทางการแพทย์ที่มีความทนทาน และไม่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อร่างกาย ทั้งนี้แพทย์จะจัดเรียงแนวของข้อเข่าเทียมให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุดและตรวจเช็คความเรียบร้อยการเคลื่อนไหวของข้อเข่าดีแล้วจึงจะเย็บปิดแผล...”

          เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดแล้ว ก็จะมีนักกายภาพบำบัดมาดูแลและฝึกปฏิบัติให้ผู้ป่วยลุกขึ้นยืนให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง จากนั้นผู้ป่วยจะต้องฝึกเดินให้ได้อย่างน้อย 3-4 ก้าว โดยอาจใช้เครื่องพยุงตัว ในการช่วยเดิน ซึ่งเป็นการฝึกให้ร่างกายคุ้นชินกับข้อเข่าเทียมที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ เมื่อแพทย์ประเมินเห็นว่าผู้ป่วยได้ฟื้นตัวดี และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว ก็อาจจะอนุญาตให้กลับบ้านภายใน 5  วันหลังจากการผ่าตัด  ซึ่งหลังจากกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านแล้วผู้ป่วยจำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีนักกายภาพบำบัดให้คำแนะนำวิธีการออกกำลังกายที่บ้านให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย 

         เพื่อให้มีข้อมูลอย่างรอบด้าน คุณหมอภาสกร จึงสรุปไว้ด้วยเลยว่าโดยทั่วไปแล้ว ข้อเข่าเทียมที่เปลี่ยนไป จะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณ 6 เดือนหลังผ่าตัด ซึ่งจะแข็งแรงเสมือนเป็นข้อเข่าของผู้ป่วยเองที่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน หรือการขึ้นลงบันได รวมทั้งการออกกำลังกายบางอย่าง เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน เล่นกอล์ฟ ว่ายน้ำได้ปกติ แต่ที่ควรต้องหลีกเลี่ยงคือพฤติกรรม หรือการออกกำลังกายที่หนักๆ เช่น วิ่งเร็ว การกระโดดอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายที่ไม่พึงประสงค์นั่นเอง แต่ถึงแม้ว่า จะผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าใหม่แล้ว ผู้ป่วยยังจะต้องดูแลตัวเองให้มากกว่าเดิม หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ หมั่นทำกายบริหาร ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน เพื่อจะได้ช่วยยืดอายุการใช้งานข้อเข่าเทียมได้...

         ท่านที่มีปัญหาเรื่องนี้ขอแนะว่าควรนัดไปปรึกษากับคุณหมอที่ ศูนย์โรคปวดเข่า รพ.ลานนา ดีกว่า  โทร.ติดต่อไปที่หมายเลข 053-999-777 ได้เลยครับ