โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ใช้เทคโนโลยี ช่วยในการวินิจฉัย และรักษาโดยการส่องกล้อง www.lanna-hospital.com

13 กันยายน 2561

#อุ่นใจ...ใกล้หมอ #เดลินิวส์"รพ.ลานนา" รักษาผู้ป่วยพ้นภาวะ "กระดูกสันหลังเคลื่อน" แผลผ่าตัดเล็ก-หายไว.. ด้วยอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

          รพ.ลานนารักษาผู้ป่วยพ้นภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อน…

          แผลผ่าตัดเล็ก-หายไวด้วยอีก 1 เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า

          ให้ประโยชน์เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยมา 

          ผ่านไปด้วยเรื่องราวความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ยุคปัจจุบันซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อผลสำเร็จที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับการผ่าตัดในอดีตแม้จะมีเป้าหมายเดียวกันคือ...ขจัดเนื้องอกในสมองของผู้ป่วย... แต่หากถามว่า... ผู้ป่วยด้วยโรคอื่นนอกเหนือจากนี้จะมีโอกาสได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการแพทย์อย่างไรอีกหรือไม่ และถ้ามี จะมีเรื่องใด??...

          “หมอจอแก้ว” ตอบได้เลยว่า...จริง ๆ แล้ว มีหลายอย่างด้วยครับ แต่ที่จะยกมาสาธยายให้ได้ทราบกันไว้ใน อุ่นใจ...ใกล้หมอ ฉบับนี้เป็นกรณีของ “ผู้ป่วยด้วยโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน” ซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดปัญหา “ปวดหลัง” นั่นเอง แต่ด้วยความที่ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของใครต่อใครมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ดังนั้นเมื่อปวดหลังขึ้นมาทีไรจึงไม่ใครจะมีใครใส่ใจกับมันมากนักเพราะคิดไปว่าปวดเดี๋ยวเดียวก็หาย...แต่เมื่อใดที่อาการหนักถึงขั้นกระดูกสันหลังเคลื่อนละก็...เรื่องใหญ่แน่ และสุดท้ายก็ต้องแจ้นไปพึ่ง “โรงหมอ” จนได้...หากไม่เชื่อก็ต้องขอเชิญมาติดตามกรณีของคุณผู้หญิงชาวเชียงใหม่ที่มีนามว่า คุณขันแก้ว ดอกขาว ดูก่อนนะครับ...
        
          ด้วยวัย 56 ปี “คุณขันแก้ว” ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารและร้านกาแฟมาหลายปีแล้วได้เล่าถึงการประกอบอาชีพที่ทำให้เธอต้องยืนเป็นเวลานานเพื่อทำอาหารและดูแลลูกค้าในร้านในแต่ละวันโดยได้เกิดอาการปวดหลังแบบไม่นึกไม่ฝันมา 4-5 ปีแล้วซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่ามันจะหนักหนาสาหัสถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล แต่เมื่อเกิดอาการขึ้นมาคราใดก็คิดว่าไปนอนพักสักเดี๋ยวคงหายจึงได้แต่ทนปวดเรื่อยมาโดยใช้วิธีรักษาด้วยการหายามาทานบ้าง ไปนวดคลายเส้นบ้าง ทำให้อาการปวดหลังเป็น ๆ หาย ๆ สลับกันอยู่อย่างนั้น และในระยะหลังได้เกิดอาการที่เป็นบ่อยเวลายืนนาน ๆ คือ ปวดหลังร่วมกับชาร้าวลงขาซึ่งหนักขึ้นทุกวันจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้ เดินก็ลำบากอีก เมื่อรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วก็ให้ลูกพาไปรับการตรวจที่ ศูนย์โรคปวดหลัง รพ.ลานนา เมื่อไม่นานมานี้โดยมี นพ.เดชวัศวร์ ศิวัชพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ซึ่งประจำอยู่ที่ศูนย์ฯ เป็นเจ้าของไข้ 

          หลังจากได้ซักประวัติอาการของผู้ป่วยหญิงรายนี้แล้ว “คุณหมอเดชวัศวร์” ได้ส่งไปเข้ารับการตรวจด้วยเทคโนโลยีตรวจร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) โดยพบว่าสาเหตุของการปวดหลังมาจากแนวของกระดูกสันหลังที่ผิดปกติไปจากเดิม คือมีการเคลื่อนตัวจากแนวเดิมและไปกดทับเส้นประสาทสันหลังมานานจึงส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป จึงได้แนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับรักษาโดย “การผ่าตัดกระดูกสันหลัง และใส่เหล็กดามร่วมกับกระดูกเทียม” ซึ่งผู้ป่วยมิได้ขัดข้องแต่อย่างใดโดยให้เหตุผลว่า “ไม่อยากทนความทุกข์ทรมานจากการปวดอีกต่อไปแล้ว”

          ผลจากการพัฒนาอย่าง ‘ไร้ขีดจำกัด’

          หากพูดถึงภาพในอดีตประมาณ 10-20 ปีย้อนหลังแล้ว ลักษณะของการผ่าตัดตามที่คุณหมอได้แนะนำผู้ป่วยนี้จำเป็นต้องเปิดแผลกว้างเพื่อทำการรักษาโดยใส่อุปกรณ์พิเศษหลายอย่างทั้งกระดูกเทียม และเหล็กดามกระดูกสันหลังในตัวผู้ป่วยโดยอาจเกิดผลเสียหรือภาวะแทรกซ้อนและความเสี่ยงเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ซึ่งจะมีทั้งรอยแผลเป็นแนวยาวที่เป็นผลให้ต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นที่นานเป็นสัปดาห์หรือกว่านั้น อีกทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อีก...ขณะที่วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันได้ช่วยให้ศัลยแพทย์ทั่วโลกรวมทั้ง ศูนย์โรคปวดหลัง รพ.ลานนา ได้ใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบแผลเล็ก(MIS) ซึ่ง “คุณหมอเดชวัศวร์” อธิบายว่า

          “...เป็นเทคนิคที่ใช้การผ่าตัดผ่านกล้อง โดยแพทย์จะเปิดผ่าตัดเปิดแผลประมาณ 2-3 ซม. บริเวณซ้าย และขวาของแนวกระดูกสันหลัง  เพื่อทำการรักษากระดูกสันหลังที่มีปัญหา และหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้น ประสาทอยู่ พร้อมใช้การดามเหล็กร่วมกับการใส่กระดูกเทียม เพื่อเข้าไปจัดแนวของกระดูกสันหลังให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด  ซึ่งวิธีการนี้เป็นผลดีทำให้กล้ามเนื้อหลังบอบช้ำน้อย อาการเจ็บแผลหลังการผ่าตัดลดลง รอยแผลเป็นมีขนาดเล็ก และการนอนพักฟื้นหลังผ่าตัดก็ใช้เวลาเพียง 3 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว ผู้ป่วยไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลนานเหมือนแต่ก่อน…”

          เรื่องนี้ทำให้เข้าใจได้ชัดเจนเลยว่าคนที่ได้ประโยชน์จาก “เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบแผลเล็ก” คือ “ผู้ป่วย” ในยุคปัจจุบันที่ไม่อาจทนทุกข์ทรมานกับอาการอันเกิดจากโรคกระดูกสันหลังซึ่งไม่มีทางเลือกในการรักษาด้วยวิธีอื่นใดนอกจาก “เข้ารับการผ่าตัด” สถานเดียว ดังจะเห็นได้จากกรณีการผ่าตัดใส่เหล็กยึดตรึงกระดูกสันหลังให้กับ “คุณขันแก้ว” และเจ้าตัวได้ออกปากว่า “รู้สึกดีขึ้นมากเหมือนยกภูเขาออกจากอก จากที่ต้องทนปวดหลังอยู่ตลอดเวลาแต่หลังจากผ่าตัดแล้วเหมือนได้ชีวิตใหม่ เพราะความทุกข์ทรมานจากอาการปวดได้หายไป พักรักษาตัวก็ไม่นาน...คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจมารักษาที่ ศูนย์โรคปวดหลัง รพ.ลานนา ค่ะ”

          กรณีนี้สะท้อนถึงผลของการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของวงการแพทย์ซึ่งได้ช่วยให้ผู้ป่วยได้ก้าวข้ามความทุกข์ทรมานได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงรับสภาพกับภาวะแทรกซ้อนเหมือนดังแต่ก่อน...ขณะที่คุณหมอศัลยแพทย์ก็แค่กรีดมีดให้เกิดแผล 2-3 ซ.ม.ก็สามารถเข้าถึงและทำการบำบัดรักษาปัญหาที่กระดูกสันหลังของผู้ป่วยได้อย่างสะดวกด้วยการมองผ่านกล้องขยายอีกต่างหาก...

          ติดตาม “อุ่นใจ...ใกล้หมอ” จาก “เดลินิวส์” ไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้ท่านผู้อ่านได้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่เราทั้งหลายจะได้รับจากความก้าวหน้าของวงการแพทย์ยุคใหม่เป็นประจำครับ